xs
xsm
sm
md
lg

แนวโน้มเรือนจำระบาดโควิด-19 ลดลง พบผู้ต้องขังติดเชื้อใหม่เหลือ 140 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “อายุตม์” เผยยอดโควิด-19 ผู้ต้องขังติดเชื้อใหม่ลดเหลือ 140 ราย หายป่วย 466 ราย ระหว่างรักษา 5,976 ราย ชี้ การระบาดพื้นที่กรุงเทพฯ ดีขึ้น

วันนี้ (21 มิ.ย.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มิ.ย. 64 เวลา 16.00 น.) ว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 140 ราย รักษาหายวันนี้ 466 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,976 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยสถานการณ์ไม่พบการระบาดในเรือนจำทัณฑสถาน 127 แห่ง และเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 13 แห่ง มีเรือนจำที่พ้นระยะสีแดง รอการปรับสถานะ 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งจะพบว่าเรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาดส่วนใหญ่มีแนวโน้มของผู้ติดเชื้อลดลง ขณะที่จำนวนผู้ป่วยรักษาหายมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายสะสม 29,166 ราย หรือ 82 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมด

นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน มีเรือนจำทัณฑสถานหลายแห่งที่สามารถจำกัดแดนที่พบผู้ติดเชื้อออกจากแดนปลอดเชื้อได้อย่างชัดเจน จนสามารถวางแผนเพื่อลดสถานะจากเรือนจำสีแดงเป็นเรือนจำสีขาวได้แล้ว ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะสามารถลดสถานะจากเรือนจำสีแดงได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยจะเริ่มทยอยลดสถานะได้ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. เป็นต้นไป

“ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในพื้นที่ จ.สงขลา ในวันนี้พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 101 ราย คือ เรือนจำกลางสงขลา 77 ราย และทัณฑสถานหญิงสงขลา 24 ราย ซึ่งเป็นการพบผู้ติดเชื้อในบางแดน และได้แยกกลุ่มเสี่ยงออกจากผู้ต้องขังรายอื่นเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการเร่งตรวจหาเชื้อเพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาที่รวดเร็ว โดยผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองจะถูกส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลภายนอก ส่วนผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ ซึ่งเป็นผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่พบเชื้อ จะได้รับการดูแลรักษาภายในพื้นที่เรือนจำทัณฑสถานที่จัดทำพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนามเฉพาะ โดยจะได้รับยาสารสกัดฟ้าทะลายโจร และยาผงฟ้าทะลายโจร รวมถึงยาต้านไวรัส และยารักษาอื่นๆ ตามอาการ”

นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า การบริหารจัดการพื้นที่เพื่อรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ในพื้นที่ จ.สงขลา ช่วงนี้ผู้ต้องขังชายจากเรือนจำกลางสงขลา และเรือนจำจังหวัดสงขลาที่เป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ จะถูกส่งตัวเข้าคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลาซึ่งยังปลอดเชื้ออยู่ ส่วนผู้ต้องขังหญิงจะนำส่งที่ทัณฑสถานหญิงสงขลาเช่นเคย โดยจัดพื้นที่ส่วนควบคุมใหม่ที่แยกประตูเข้า-ออกจากทัณฑสถานเดิมอย่างชัดเจน เพื่อเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อในการรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายต่อจากนี้จนกว่าสถานการณ์จะปกติ ซึ่งจะมีขั้นตอนการกักโรคและตรวจเชื้อผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พบการติดเชื้อในเรือนจำทัณฑสถานหลายแห่ง อาจจะทำให้ญาติผู้ต้องขังหลายท่านเกิดความกังวลใจเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง โดยเฉพาะในผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้มอบหมายให้ศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ หรือศูนย์ CARE ในทุกเรือนจำทัณฑสถาน ทำหน้าที่แจ้งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงเป็นผู้ให้ข้อมูลแก่ญาติที่ทำการสอบถามเข้ามา ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ โทรศัพท์ ไลน์ หรือ เฟซบุ๊กของเรือนจำทัณฑสถาน ซึ่งที่ผ่านมา ได้ดำเนินการตอบข้อสงสัยและให้ข้อมูลแก่ญาติผู้ต้องขังไปแล้ว 61,890 ราย เป็นการให้ข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ 17,610 ราย ผ่านช่องทางไลน์ 21,569 ราย และช่องทางเฟซบุ๊ก 22,711 ราย โดยเป็นเรือนจำที่พบการระบาด 23,050 ราย และเรือนจำที่ไม่พบการระบาด 38,840 ราย

ทั้งนี้ หากญาติผู้ต้องขังท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำทัณฑสถาน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์ CARE ทุกเรือนจำทัณฑสถาน หรือ ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) หมายเลข 02-9673383, 02-9672222 ต่อ 199 หรือ ค้นหาช่องทางติดต่อเรือนจำ/ทัณฑสถาน ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ กรมราชทัณฑ์ ไอดี @thaidoc หรือ เฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์
กำลังโหลดความคิดเห็น