MGR Online - กองปราบเตรียมขอหมายจับทหารยศสิบเอก ร่วมแก๊งอดีตตำรวจนอกรีต รับจ้างนายทุนยานรกอุ้มเรียกค่าไถ่ 2 ล้าน เหยื่อเผยเกือบถูกยิงทิ้งหากไม่ได้เงินค่าไถ่ก่อนเดดไลน์
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจกองปราบบุกจับกุม นายอรรถพนธ์ เดชะ อายุ 33 ปี นายนายอภิสิทธิ์ นิคม อายุ 26 ปี นายสุทธิรักษ์ บริรักษ์ อายุ 25 ปี และ นายสิทธิพงษ์ บุญสง อายุ 26 ปี สมาชิกแก๊งทวงหนี้รับจ้างนายทุนยาเสพติดอุ้มเหยื่อ 2 ราย ไปกักขังภายในบ้านเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทำนบ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อเรียกค่าไถ่จำนวน 2 ล้านบาทว่า ขณะนี้ทาง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6. บก.ป. พ.ต.ท.วริศร มัจฉา, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ต.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ป. เร่งขยายผลต่อเนื่อง เพื่อเอาผิดนายทุนยาเสพติดผู้จ้างวาน และผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ เนื่องจากถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และอยู่ในความสนใจของสังคม
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากแนวทางสืบสวนพบผู้ต้องหากลุ่มนี้มีการทำเป็นขบวนการใหญ่ มีผู้ร่วมขบวนการหลายคน ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นการรับจ้างทวงเงินค่ายาเสพติดหรือเงินผิดกฎหมายเป็นหลัก โดยขณะนี้ทางชุดคลี่คลายคดีพบหลักฐานความเชื่อมโยงไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ที่แน่ชัดแล้ว 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ทหาร ยศ ส.อ. สังกัดหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ 1 นาย และพลเรือน ทั่วไปอีก 1 คน ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ
นอกจากนี้ ตรวจสอบประวัติของ นายอรรถพนธ์ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้แล้วนั้น พบว่า นอกจากจะมีหมายจับในคดียาเสพติดติดตัวแล้ว ยังมีหมายจับศาลจังหวัดสตูล ในคดีอุ้มฆ่า ติดตัวอีก 1 คดี หลังร่วมกับ อดีตตำรวจ ตชด. นอกรีต ก่อเหตุอุ้มฆ่าผู้เสียหายรายหนึ่งแล้วนำศพไปโยนศพทิ้งทะเล ที่ จ.สตูล เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งตัวอดีตตำรวจ ตชด. นอกรีต คนดังกล่าวที่ร่วมก่อเหตุนั้นได้ถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว คงเหลือ นายอรรถพนธ์ ที่ยังไม่ถูกจับดำเนินคดี กระทั่งมาถูกจับกุมตัวในคดีล่าสุด
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการสอบปากคำเหยื่อในฐานะผู้เสียหาย หรือพยานเพื่อเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหา พบว่า หากในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้การช่วยเหลือช้ากว่านั้นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันอาจไม่สำเร็จ และอาจเกิดความสูญเสียตามมา เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาเริ่มวางแผนเตรียมลงมือฆ่าหนึ่งในตัวประกันด้วยการยิงทิ้ง หากทางครอบครัวไม่ยอมนำเงินค่าไถ่มาให้ก่อนกำหนดเส้นตายคือช่วงเย็นของวันดังกล่าวตามข้อเรียกร้อง เพราะกลุ่มผู้ต้องหามองว่าก่อนหน้านี้ได้เปิดโอกาสให้ทางครอบครัวผู้เสียหายเจรจาต่อรองมานานร่วมสัปดาห์ แต่ทางครอบครัวก็ยังไม่สามารถหาเงินมาให้ได้ครบตามที่ต้องการ พร้อมกันนี้ ตลอดเวลาที่ผู้เสียหายถูกคุมขังอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวยังถูกกลุ่มผู้ต้องหาทารุณกรรมโดยการใช้กำลังทุบตีทำร้ายร่างกายตลอดเวลา จนคิดว่าไม่น่าจะมีชีวิตรอดออกไป เนื่องจากรู้ดีว่าทางครอบครัวไม่สามารถหาเงินมาให้กลุ่มคนร้ายได้ตามที่เรียกร้อง แต่เคราะห์ยังดีที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจนำกำลังบุกจู่โจมช่วยเหลือออกมาได้ทันเวลา