MGR Online - “อายุตม์” รายงานยอดโควิด-19 มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายวัน 294 ราย หายป่วยสะสม 70 เปอร์เซ็นต์ ฉีดวัคซีนแล้ว 18 แห่ง เล็งฉีดเพิ่ม 21 แห่ง ก่อนกระจายจนครบทั่วประเทศ
วันนี้ (11 มิ.ย.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิ.ย. 64 เวลา 16.00 น.) ว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 294 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,021 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 8,747 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยภาพรวมพบว่ามีเรือนจำทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาด จำนวน 129 แห่ง ขณะที่ยังพบการแพร่ระบาด 12 แห่งคงเดิม
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อที่รักษาหายเพิ่มขึ้นมากถึง 3,021 ราย ซึ่งเป็นไปตามกำหนดระยะเวลาของโรคในผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ ตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้กลุ่มผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ แยกกักตัวดูแลในสถานที่ควบคุมอย่างน้อย 14 วัน นับจากวันที่ตรวจพบเชื้อ โดยถ้าไม่มีอาการผิดปกติ ให้จำหน่ายจากโรงพยาบาลหรือสถานที่ควบคุมได้ โดยให้การรักษาตามอาการและสังเกตอาการใกล้ชิดจนครบกำหนดเนื่องจากส่วนใหญ่หายได้เอง
“กรมราชทัณฑ์ ได้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว โดยการให้ยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรและยาผงฟ้าทะลายโจร พร้อมสังเกตอาการเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน นับจากวันตรวจพบเชื้อ จนพบว่าไม่มีอาการผิดปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่หายจากการติดเชื้อกลุ่มดังกล่าว ยังต้องถูกกักตัวเพื่อสังเกตอาการต่ออีกระยะเวลา 14 วัน จึงจะส่งตัวกลับเข้าแดนปกติ ซึ่งปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ มียอดหายป่วยสะสมแล้ว 21,559 ราย หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 30,488 ราย และยังคงมีแนวโน้มของจำนวนผู้หายป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาทั้งหมด”
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เริ่มน้อยลง ทั้งจากการ SWAB ซ้ำในกลุ่มเรือนจำทัณฑสถานที่พบการระบาดเดิม และจากผู้ต้องขังรับเข้าใหม่ที่มีการวางมาตรการคัดกรองอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้นำเชื้อเข้าไปแพร่ระบาดในเรือนจำทัณฑสถาน รวมถึงการวางแนวทางการรักษาในกลุ่มผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง สีแดง ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง โดยการให้ยาและการเข้าถึงการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดอัตราของผู้ป่วยหนัก และลดอัตราการเสียชีวิตลง ควบคู่ไปกับการวางแผนการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ตามนโยบายเน้นหนักของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ให้ความสำคัญ ในการบริหารจัดการวัคซีนแก่ผู้ต้องขังให้ได้รับวัคซีนเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันโดยเร็วที่สุด
นายอายุตม์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขมาแล้ว จำนวน 40,000 โดส และยังอยู่ระหว่างการจัดสรรเพิ่มเติมจนครอบคลุมทั้งหมด ควบคู่กับแผนการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไป ซึ่งได้ดำเนินการฉีดวัคซีน แก่ผู้ต้องขังไปแล้ว 23,329 ราย ในเรือนจำทัณฑสถาน จำนวน 18 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิ.ย.) คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ, ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี , เรือนจำกลางระยอง , เรือนจำพิเศษพัทยา , ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ , เรือนจำกลางนครปฐม , ทัณฑสถานหญิงกลาง , เรือนจำอำเภอไชยา , เรือนจำอำเภอธัญบุรี , สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี , เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช , เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร , เรือนจำกลางคลองเปรม , เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร , ทัณฑสถานหญิงธนบุรี , เรือนจำพิเศษธนบุรี , เรือนจำพิเศษมีนบุรี และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีเรือนจำทัณฑสถานที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ 21 แห่ง ซึ่งได้สั่งการเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด