MGR Online - “อายุตม์” รายงานยอดติดโควิด-19 รายวัน 534 ราย ดับ 3 ราย รักษาตัว 13,392 ราย ทยอยฉีดวัคซีนผู้ต้องขังแล้ว 9 เรือนจำ วางแผนรับมอบเพิ่มอีกกว่า 30 แห่ง
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิ.ย. เวลา 16.00 น.) ว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 534 ราย รักษาหายเพิ่ม 158 ราย เสียชีวิต 3 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 13,392 ราย โดยภาพรวมพบว่ามีเรือนจำทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 126 แห่ง และพบการแพร่ระบาดจำนวน 12 แห่งคงเดิม ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้จะมีจำนวนเรือนจำทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดเพิ่ม รวมถึงการเปลี่ยนสถานะจากเรือนจำทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาดให้เป็นเรือนจำที่ไม่พบการแพร่ระบาดได้เพิ่ม ทั้งนี้ การดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปตามแนวทางของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับแผนการป้องกันเชื้อ รวมถึงการรักษาผู้ติดเชื้อ ให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานทางการแพทย์ทุกประการ
นายอายุตม์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังไปแล้ว 17,054 ราย ในเรือนจำทัณฑสถาน จำนวน 9 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิ.ย.) คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ, ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี, เรือนจำกลางระยอง, เรือนจำกลางนครปฐม, เรือนจำพิเศษพัทยา, ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์, ทัณฑสถานหญิงกลาง, เรือนจำพิเศษมีนบุรี และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีเรือนจำทัณฑสถานที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ 7 แห่ง คือ เรือนจำอำเภอธัญบุรี, สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี, เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช, เรือนจำกลางชลบุรี, เรือนจำกลางราชบุรี, เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี และ เรือนจำอำเภอไชยา
“โดยมีเรือนจำทัณฑสถานอีก จำนวน 26 แห่ง ทั้งเรือนจำสีขาวในพื้นที่สีแดงเข้ม ได้แก่ เรือนจำจังหวัดปทุมธานี, เรือนจำอำเภอธัญบุรี, สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี, เรือนจำกลางเพชรบุรี และเรือนจำสีขาวในพื้นที่สีแดง ที่จะดำเนินการฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง และผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการยืนยันทางการแพทย์ ซึ่งจะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวเช่นเดียวกัน และเมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมจะดำเนินการกระจายวัคซีนไปยังกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการฉีด จนกระทั่งครอบคลุมทุกราย ซึ่งรวมถึงการดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเรือนจำทัณฑสถานที่มีการฉีดเข็มแรกไปแล้ว เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและให้วัคซีนสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น”
นายอายุตม์ กล่าวถึงกรณีผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 3 รายในวันนี้ ว่า ผู้ต้องขังทั้ง 3 รายได้ถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นผู้ต้องขังจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เรือนจำพิเศษธนบุรี และเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งทั้ง 3 ราย เป็นผู้ต้องขังในกลุ่มเปราะบาง คือ มีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวาน ความดัน มีภาวะไตวาย และบางรายเป็นผู้ป่วยสูงอายุ ที่มีภาวะความเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคที่สูง โดยมี 2 รายได้ถูกส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ และโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่อาการยังคงทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิตให้แก่ญาติ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย ตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของสถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข