MGR Online - อธิบดีราชทัณฑ์ ทยอยฉีดวัคซีนโควิดผู้ต้องขังเรือนจำ 3 กลุ่มเสี่ยง ก่อนกระจายทั่วประเทศ ส่วนยอดผู้ป่วยเริ่มลดลงต่อเนื่อง
วันนี้ (7 มิ.ย.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 6 มิ.ย. 64 เวลา 16.00 น.) ว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 91 ราย รักษาหายเพิ่ม 842 ราย เสียชีวิต 4 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 13,008 ราย โดยภาพรวมมีเรือนจำทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 126 แห่ง และมีการแพร่ระบาดจำนวน 12 แห่งเท่าเดิม แต่ยังคงเข้มมาตรการป้องกันเชื้อ คือ อย่าให้มีการนำเชื้อเข้า เร่งดำเนินการรักษาเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต และระวังอย่าให้นำเชื้อจากเรือนจำแพร่ระบาดสู่ภายนอก โดยเฉพาะการเร่งค้นหาและคัดแยกผู้ป่วยในเรือนจำทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาด นอกจากจะช่วยให้ผู้ต้องขังได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วแล้ว ยังสามารถคัดกรองผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ ให้ได้รับการจัดสรรวัคซีน ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดภายในเรือนจำทัณฑสถานได้อีกทาง”
นายอายุตม์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนในเรือนจำทัณฑสถานไปแล้ว จำนวน 9 แห่ง คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ, ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี, เรือนจำกลางระยอง, เรือนจำกลางนครปฐม, เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี, เรือนจำพิเศษพัทยา, ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์, เรือนจำจังหวัดภูเก็ต และเรือนจำพิเศษมีนบุรี ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการต่อจากนี้ ในระยะแรกจะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนในผู้ต้องขัง 3 กลุ่ม ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด คือ 1. กลุ่มเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาดในพื้นที่สีแดงเข้ม ได้แก่ เรือนจำจังหวัดปทุมธานี, เรือนจำอำเภอธัญบุรี, สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี และ เรือนจำกลางเพชรบุรี จะได้รับการจัดสรรวัคซีนครบตามจำนวนผู้ต้องขังทุกคน 2. เรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาดในพื้นที่สีแดง จะดำเนินการฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง (ผู้ต้องขังสูงอายุ และผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัว) จำนวน 19 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดตรัง, ทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา, เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี, ทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช, เรือนจำอำเภอนาทวี, เรือนจำกลางยะลา, เรือนจำอำเภอทุ่งสง, เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร, เรือนจำกลางเขาบิน, เรือนจำจังหวัดระนอง, ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา, เรือนจำกลางตาก, เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา, ทัณฑสถานหญิงชลบุรี, ทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา, ทัณฑสถานหญิงสงขลา, เรือนจำอำเภอไชยา และ เรือนจำอำเภอปากพนัง
“และกลุ่มที่ 3 เรือนจำที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และมีผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการยืนยันทางการแพทย์ จะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว ซึ่งวันนี้จะเริ่มจัดสรรวัคซีน ให้แก่ทัณฑสถานหญิงกลาง และจะพิจารณาจัดสรรเพิ่มเติมที่ทัณฑสถานหญิงธนบุรี รวมถึงเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่อยู่ระหว่างการยืนยันผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้ออีกครั้ง”
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีของผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 4 รายในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังที่เสียชีวิตที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 3 ราย และที่โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง 1 ราย โดยทั้ง 4 ราย เป็นผู้ต้องขังในกลุ่มเปราะบาง คือ มีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวาน และบางรายเป็นผู้ป่วยสูงอายุ ที่มีภาวะความเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคที่สูง ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของผู้ป่วยทั้ง 4 รายไว้ได้ จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด