MGR Online - กองปราบเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์ในเพจ “ชุมชนตลาดดำ” ก่อนรวบเจ้าของร้านทองพร้อมของกลางอาวุธสงครามกว่า 40 กระบอก พบโยงขบวนการมือปืนภาคใต้
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. และ พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป.นำกำลังกว่า 20 นาย เปิด “ปฏิบัติการทลายเครือข่ายซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์” พร้อมหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นร้านทอง ห้างทองศรีเพชรทอง 2 เลขที่ 6/6 ซอยเพชรเกษม 81 ถ.มาเจริญ แขวงและเขตหนองแขม กทม. ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 1 ห้อง 3 ชั้นติดริมถนน โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นกับ นายอนพัช รุจิระพัฒน์ 43 ปี เจ้าของร้านทองดังกล่าว
จากการตรวจค้นในบริเวณอาคารและตู้เซฟ ซึ่งอยู่ภายในห้องนอน พบอาวุธปืนจำนวนมาก ประกอบด้วย ปืนพกสั้นหลายขนาด รวม 35 กระบอก อาวุธปืนสงคราม M16 จำนวน 1 กระบอก ปืนชนิด CCMG 1 กระบอก ปืนไรเฟิล 1 และปืนลูกซองยาวรวม 5 กระบอก จึงยึดไว้เป็นหลักฐานและประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ
สอบสวน นายอนพัช ยอมรับว่าเป็นเจ้าของ จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สุวัฒน์ ได้สั่งการ พ.ต.อ.พรศักดิ์ ประสานผู้กำกับแต่ละกองกำกับการทั่วประเทศ สืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุมครั้งนี้ ว่าอาวุธปืนของกลางทั้งหมดเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้หรือไม่
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า การบุกเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เป็นการขยายผลจากปฎิบัติการของ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ที่ก่อนหน้านี้ ได้จับกุมมือปืนและขบวนการค้าอาวุธปืนเถื่อนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 และ 9 ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคใต้ที่มีสถิติคดีอาชญากรรมค่อนข้างสูง จากการสืบสวนพบว่ามีเครือข่ายโยงใยกับการค้าอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ในกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดในภาคกลาง จึงประสานกำลังกับ พ.ต.อ.ธงชัย และ พ.ต.อ.วิจักขณ์หัวหน้าชุดหนุมาน เข้าตรวจค้นในวันนี้ เบื้องต้นได้สั่งการให้นำอาวุธปืนทั้งหมดไปตรวจสอบเพื่อดูว่ากระบอกไหนมีทะเบียนและกระบอกไหนเป็นปืนเถื่อนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1.บก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6.บก.ป. และ พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กก.สสน.บก.ป., เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สนับสนุน บก.ปอท. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันแถลงผลการบุกทลายเครือข่ายขายอาวุธปืนออนไลน์ หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 8 จุด ในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด จนสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายอนพัช รุจิระพัฒน์ อายุ 43 ปี นายนฤพล จันทร์นวลอายุ 39 ปี นายสหรัฐ ลพทองคำ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้น 41 กระบอก อาวุธปืนยาว 15 กระบอก ในจำนวนนี้มีอาวุธปืนสงคราม 4 กระบอก ระเบิดสังหารชนิด วี 40 จำนวน 14 ลูก และเครื่องกระสุนปืนกว่า 1,000 นัด
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสืบทราบเบาะแสว่ามีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนผ่านเฟซบุ๊คซึ่งเป็นกลุ่มปิดที่ชื่อว่า “ชุมชนตลาดดำ” และกลุ่มลับในแอพพลิเคชั่นไลน์ มีสมาชิกเข้าร่วมกลุ่มเป็นจำนวนมาก จึงกระจายกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อตั้งกลุ่มดังกล่าวรวมถึงแอดมินดูแลกลุ่ม ได้จำนวน 3 คน ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืนทั้งสั้นและยาวได้รวมกว่า 40 กระบอก ก่อนให้การซัดทอดว่าเมื่อมีออเดอร์สั่งซื้อปืนจากสมาชิก ก่อนจะติดต่อไปหานายฤพล นายหน้า เพื่อประสานสั่งซื้อปืนจากนายอนพัช ผู้ลักลอบจำหน่ายปืนรายใหญ่ ที่ประกอบกิจการเปิดร้านทองและร้านรับส่งพัสดุ อยู่ในพื้นที่ กทม.
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์ปณต กล่าวว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขยายผลตรวจสอบข้อเท็จจริง จนทราบว่า มีการสั่งซื้ออาวุธปืนจริงตามที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนแรกกล่าวอ้าง โดยมีการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารคนสนิทของนายอนพัช และทุกครั้งที่จัดส่งสินค้าผ่านทางพัสดุ นายอนพัช ก็จะให้นายสหรัฐ ลูกน้องเป็นผู้ดำเนินการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชัน เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 8 จุด ในจำนวนนี้รวมถึงร้านทองของนายอนพัช ด้วย จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดและตรวจยึดของกลางจำนวนมากได้ดังกล่าว
พ.ต.อ.พงศ์ปณต กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพ โดยในส่วนของนายอนพัช ยังยอมรับอีกว่าตนเองชื่นชอบสะสมอาวุธปืน ซึ่งปืนที่ครอบครองส่วนใหญ่จะเป็นปืนที่มีคนนำมาขายต่อให้ หรือ นำมาฝากจำนำไว้แล้วไม่ได้ไถ่ถอนกลับคืนไป เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้(อาวุธสงคราม)แก่นายอนพัช พร้อมกับแจ้งข้อหานายนฤพล ในความผิดครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายสหรัฐ ถูกดำเนินคดีในข้อหา สนับสนุนให้มีการกระทำผิดและครอบครองยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป