คนร้าย 3 คนใช้อาวุธปืนไรเฟิลกราดยิงผู้คนที่ด้านนอกสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ซึ่งมีการจัดคอนเสิร์ตเมื่อวันอาทิตย์ (30 พ.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บกว่า 20 คน
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า คนร้าย 3 คนถือปืนไรเฟิลและปืนพกเดินลงมาจากรถเอสยูวี นิสสัน พาร์ธไฟเดอร์ สีขาว จากนั้นก็เริ่มกราดยิงใส่ผู้คนที่มาชมคอนเสิร์ตเปิดตัวอัลบั้มที่ El Mula Banquet Hall ใกล้กับเมืองไฮอัลเลอาห์ (Hialeah) ในเทศมณฑลไมอามีเดด
อัลเฟรโด รามิเรซ ผู้กำกับการตำรวจไมอามีเดด ทวีตข้อความว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ขณะที่แก๊งคนร้ายกลุ่มนี้ “ใช้อาวุธปืนก่อความรุนแรงอย่างขี้ขลาดตาขาว”
“พวกนี้คือฆาตกรเลือดเย็นที่ยิงใส่คนแบบไม่เลือกหน้า และเราจะต้องทวงคืนความยุติธรรม”
หนังสือพิมพ์ไมอามีรัลด์รายงานว่า ผู้บาดเจ็บ 20 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลหลายแห่ง ส่วนสถานีโทรทัศน์ CBS4 Miami ระบุว่ามีเหยื่ออย่างน้อย 1 คนอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต และจนถึงช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ (30) ตำรวจก็ยังควบคุมตัวคนร้ายไม่ได้
แองเจลิกา กรีน หนึ่งในญาติผู้บาดเจ็บ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ลูกชายและหลานซึ่งอายุ 24 ปีทั้งคู่เดินทางไปถึงคลับตอนคนร้ายลงมือกราดยิงพอดี จึงพลอยถูกลูกหลงบาดเจ็บไปด้วย และเวลานี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแจ็คสันเมมโมเรียลในไมอามี แต่โชคดีที่อาการของพวกเขาเริ่มทรงตัวแล้ว
เธอเล่าว่าลูกชายโทรมาหาด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก บอกว่าเขาถูกยิงและรู้สึกเจ็บปวดมาก
“เขาบอกว่ามือปืนพวกนั้นสวมหน้ากาก ใส่ฮู้ด และชักปืนออกมายิงใส่คนแบบไม่เลือก” กรีน กล่าว
รอน เดอแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษ
“ความยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง!” เขาทวีตข้อความ
ในช่วง 132 วันแรกของปีนี้เกิดเหตุยิงสังหารหมู่ในสหรัฐฯ แล้วไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง ตามรายงานขององค์กรวิจัยไม่แสวงผลกำไร Gun Violece Archive
ที่มา: