ศาลอาญาสั่งอนุญาตให้ประกัน “จัสติน” หมิ่นเบื้องสูง แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามชุมนุมก่อความวุ่นวาย ทำให้สถาบันฯเสื่อมเสีย หรือ เดินทางออกนอกประเทศ
วันนี้ (1 มิ.ย.) ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือ จัสติน แนวร่วมม็อบคณะราษฎร คดีทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ หมิ่นสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ศาลคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวนายชูเกียรติ หรือ จัสติน โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีประเด็นให้พิจารณาว่ามีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108/1 อันอาจทำให้ศาลต้องสั่งมิให้ปล่อยชั่วคราวหรือไม่
คดีนี้จำเลยถูกเจ้าพนักงานจับกุมโดยไม่มีการเรียกผู้ต้องหามาก่อน และไม่ปรากฏว่า นายชูเกียรติ ผู้ต้องหาได้พยายามหลบหนีก่อนการถูกจับกุมจึงยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ไปว่าผู้ต้องหาประสงค์จะหลบหนีพยานหลักฐานในการสอบสวนในคดีส่วนใหญ่เป็นพยานหลักฐานที่อยู่ในความครอบครองของเจ้าพนักงานไม่อยู่ในวิสัยที่ผู้ต้องหาจะไปยุ่งเกี่ยวได้ในส่วนการที่ผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุร้ายประการอื่นนั้น เมื่อผู้ต้องหาให้ถ้อยคำยืนยัน พร้อมทั้งมีลายลักษณ์อักษรและด้วยวาจาตนเองน่าเชื่อว่าผู้ต้องหามีเจตนาที่จะกระทำตามเงื่อนไขด้วยความสมัครใจของตนเอง ผู้ขอประกันผู้ต้องหาเป็นผู้สนิทสนมที่ผู้ต้องหานับถือเสมือนพี่และหลักทรัพย์มูลค่าถึง 2 เเสนบาท พอสมควรแก่พฤติการณ์แห่งคดีเป็นที่น่าเชื่อถือ ทั้งยังมี นางชลิตา บัณฑิวงศ์ อาจารย์ ม.เกษตรศาสตร์ พร้อมจะกำกับดูแล จึงไม่มีเหตุที่จะมิให้ปล่อยชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1
จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยกำหนดเงื่อนไขมิให้ผู้ต้องหาไปกระทำกิจกรรมที่กระทำความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ร่วมการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร รวมทั้งให้มาศาลตามนัด หากผิดสัญญาให้ปรับ 2 แสนบาท
อย่างไรก็ตามในส่วนของนายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือ จัสติน คาดว่า ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ เพราะเจ้าตัวยังมีคดี อาญามาตรา 112 อีก 2 ศาล ทั้งที่ศาลอาญากรุงเทพฯใต้และที่ศาลอาญาธนบุรี
ซึ่งทนายความเตรียมยื่นเงื่อนไขขอปล่อยชั่วคราวแบบเดียวกัน ทิศทางการปล่อยตัวคาดว่าจะไปได้ดี ส่วนผลรายงานการตรวจโควิด-19 ขณะนี้พบว่า นายชูเกียรติ หรือจัสติน ปลอดเชื้อแล้ว