ศาลยุติธรรมไม่นิ่งนอนใจ ตรวจสอบคดีสินบน “ท่านเปา” ช่วยโตโยต้า ไม่ต้องจ่ายภาษี 10,000 ล้าน รอประสานขอข้อมูลจากอเมริกา ย้ำคดียังไม่ที่สุด ศาลฎีกายังไม่ได้ตัดสิน ขั้นตอนอยู่ระหว่างขยายเวลายื่นคำแก้ฎีกา
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวติดตามการสอบสวนในต่างประเทศเกี่ยวกับคดีภาษีของบริษัทในเครือโตโยต้าผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศ (เว็บไซต์aw360.com) เมื่อช่วงเข้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทยนั้น
วันนี้ (27 พ.ค.) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
ประการที่ 1 หลังจากที่ได้เคยมีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าว ครั้งแรกช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำนักงานศาลยุติธรรมมิได้นิ่งนอนใจ โดยได้มีหนังสือประสานขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบกรณีดังกล่าวในสหรัฐอเมริกาผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบกลับจากหน่วยงานในสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่า นับตั้งแต่ทราบเรื่องสำนักงานศาลยุติธรรมได้พยายามติดตาม ตรวจสอบ รวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศมาโดยตลอด และเมื่อมีการรายงานข่าวพาดพิงถึงชื่อและตำแหน่งของบุคคลบางราย สำนักงานศาลยุติธรรมก็จะดำเนินการตรวจสอบไปยังหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอข้อมูลมาประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย โดยการดำเนินการอย่างไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของข้อมูลที่ได้รับ
ประการที่ 2 หากสำนักงานศาลยุติธรรมได้รับข้อมูล หรือสามารถตรวจสอบได้ว่ามีมูลเป็นความผิด จะดำเนินการตามขั้นตอนทางวินัยต่อไป โดยไม่คำนึงว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะเป็นใครและมีตำแหน่งใด จะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต ) พิจารณา ขอยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก.ต. ได้ดำเนินการตรวจสอบและลงโทษทงวินัยอย่างเด็ดขาดกับการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของผู้พิพากษา ทำลายความเป็นกลางของศาล และทำให้สังคม
ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย หากพบว่าผิดจริงก็จะลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด
ซึ่งเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด
ประการที่ 3 สำหรับคดีที่ บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทย จำกัด ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐที่จัดเก็บภาษี เป็นจำเลยเนื่องจากการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อประกอบเป็นรถยนต์รุ่นพรีอุส โดยมีคำขอให้เพิกถอนการประเมินและเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของหน่วยงานที่จัดเก็บภาษี ซึ่งโจทก์ได้ยื่นขออนุญาตฎีกาหลังจากที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ เป็นผลให้โจทก์ต้องรับผิดชำระภาษีอากรตามการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ โดยมีการอ่านคำสั่งอนุญาตให้ฎีกาเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา มีผลเพียงศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ฎีกาและรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาเท่านั้น โดยคดียังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาในเนื้อหาหลักแห่งคดีแต่อย่างใด โดยความคืบหน้าล่าสุด ยังอยู่ระหว่างการขอขยายระยะเวลายื่นคำแก้ฎีกาซึ่งศาลอนุญาตให้ขยายได้ถึงวันที่ 13 ก.ค.นี้ หากฝ่ายจำเลยยื่นคำแก้ฎีกามาแล้วศาลภาษีอากรกลางจะรวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาต่อไป เนื่องจากในระหว่างนี้การดำเนินการ ไม่ว่าในสหรัฐอเมริกาหรือในประเทศไทยเองยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเท่านั้น ยังไม่ได้มีคำพิพากษาหรือคำตัดสินอันเป็นที่ยุติว่าเกิดการกระทำตามที่มีการกล่าวอ้างหรือไม่อย่างไร จึงขอให้สาธารณชนได้สดับตรับฟังข้อมูลด้วยความระมัดระวัง และรอผลการดำเนินการทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทยให้เป็นที่ยุติเสียก่อน