ลุงวัย 64 ปี ตามง้อเมียแม่ค้าอาหารตามสั่งวัย 49 ปี ไม่สำเร็จ ฉุนใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาร้านวอด น้องเมีย-แม่ยายเอือมระอา ลูกเขเสเพลเมาเหล้าชอบอาละวาด ทุบตีข้าวของ
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณหมู่บ้านเอื้ออาทรบางบัวทอง 2 ตึก 21 ถ.บางกรวยไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบ น.ส.รัชนีวรรณ หรือ น้ำค้าง ขำสำอางค์ อายุ 49 ปี อาชีพเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง หลังถูกอดีตสามี นายเชวง สรสิทธิ์ อายุ 64 ปี ใช้น้ำมันเบนซินเผาร้านอาหารตามสั่งทำให้เสียรายได้ประจำและของทั้งหมดเสียหายประมาณ 30,000 บาท หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง เมื่อวันที่ 25 ของช่วงเช้าวันนี้
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเวลา 02.00 น. วันที่ 25 พ.ค. 64 มีชายสูงอายุเดินวนเวียนอยู่ภายหน้าร้านอาหารตามสั่ง ลักษณะท่าเดินคล้ายคนเมา สวมเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีน้ำตาล ใส่กางเกงสแล็กสีดำ สวมรองเท้าแตะ ใส่มาสก์ปิดปาก เดินตรงเข้าไปที่ร้านอาหารตามสั่งใช้เวลาสักพักก่อนที่จะเดินออกมา หลังจากนั้น เกิดควันขึ้นและมีเปลวเพลิงไฟลุกไหมอย่างแรง จนตู้ขายอาหารตามสั่ง อุปกรณ์หลายอย่างถูกไฟไหม้เสียหาย
ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบยางในรถยนต์และขวดใส่น้ำมันสองขวด คาดว่า เป็นของคนร้ายที่ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายคือนายเชวง อดีตสามีคุณน้ำค้างเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง
นางน้ำค้าง เล่าว่า อยู่กินกับนายเชวงมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยนายเชวงเคยทำงานเป็น รปภ.ตามหมู่บ้านจัดสรร ตลอดเวลามักถูกอดีตสามีทำร้ายเป็นประจำ จึงเลิกรากันไปกว่า 3 ปีแล้ว แต่ตลอดเวลานายเชวงก็จะมาตามตื้อขอคืนดีอยู่เสมอ แต่ตนปฏิเสธไป เพราะตนนั้นเพิ่งผ่าตัดหัวใจมาจึงไม่คิดเรื่องนี้แล้ว แต่นายเชวงก็ไม่ฟังเหตุผล ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 64 ก็เมาเหล้ามาอาละวาดงอนง้อขอคืนดี และพูดถึงความดีที่เคยทำให้ แต่ตนก็ว่าและปฏิเสธไป
จนกระทั่งคืนเกิดเหตุ มีชาวบ้านแจ้งว่าร้านอาหารตามสั่งของตนถูกไฟเผาได้รับความเสียหาย จึงมาตรวจสอบ ในใจก็คิดแล้วว่าคงเป็นฝีมืออดีตสามีรายนี้อย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยถูกเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามาตรวจค้น ขณะนายเชวงนั่งเมาอยู่แถวๆ ร้านตน ซึ่งตำรวจเองก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปในครั้งนั้น ไม่คิดว่าจะกล้ามาลงมือเผาร้านและอุปกรณ์ทำมาหากินของตนได้ลงคอ คุณน้ำค้าง กล่าว
น.ส.อรวรรณ ขำสำอางค์ อายุ 45 ปี น้องสาวผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดวันที่ 25 พ.ค. 64 เวลา 02.00 น. มีชาวบ้านขับรถผ่านไปมาได้แจ้งทางนิติแล้วตะโกนเรียกซึ่งห้องพี่สาวอยู่ติดกับร้านอาหารจึงดึงสายยางออกมาผ่านหน้าต่าง ซึ่งเขาลงมือก่อเหตุมาหลายครั้งแล้วและครั้งนี้หนักที่สุด แจ้งทางนิติและแจ้งความไปหลายครั้งแต่ทำอะไรไม่ได้ เขาได้เลิกพี่สาวไปประมาณ 3 ปีแล้ว แต่ไม่ยอม ตามราวี และยืนยันว่า จะไม่เลิกกับพี่สาวตนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรับปากว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อน แต่เขามาทำลายข้าวของและตีกระจกแตกไป 6 บาน ซึ่งแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไป 2-3 ครั้งแล้ว ได้คำตอบมาว่าถ้าเขากลับมาอีก ก็ให้ไปแจ้งอีก และทางนิติก็เพิกเฉยและบอกว่ากล้องเสียดูไม่ได้ อยากทราบว่า รปภ.ที่อยู่หน้าหมู่บ้านมีประสิทธิภาพพอไหมที่ปล่อยให้เขาเข้ามา
นางละเอียด คล้ายคลึง อายุ 73 ปี แม่ผู้เสียหาย เล่าว่า แฟนเก่าลูกสาวที่ลงมือวางเพลิงเขาเคยด่าทอตนด้วยคำหยาบคาย และคว้าอาวุธมาข่มขู่ตน และด่าทอลูกค้าผู้ชายที่มาทานข้าวที่ร้านด้วยความหึงหวง ซึ่งพูดจาไม่ดีกับคนอื่นและคิดไปเองว่าลูกสาวตนจะไปมีคนอื่น ซึ่งตนยืนยันว่า ลูกสาวไม่มีเพราะนอนด้วยกันทุกวัน ซึ่งเขาไม่ยอมเลิกจะวนเวียนเข้ามาบ่อยครั้ง ตนได้เตือนหลายครั้งแล้วให้เลิกยุ่งกับลูกสาวตนแต่เขาไม่ยอม เขาได้มาบอกลาว่าจะกลับต่างจังหวัดแต่ผ่านไป 1-2 วัน ก็กลับมาเหมือนเดิม เวลาเขามาหลานๆ จะมีฉายาที่ตั้งให้เขาไว้ว่า “หมาหน้าย่นมาแล้ว” ชื่อเล่นเขาชื่อดำ แต่หน้าย่นเหมือนหมาเลยตั้งให้ ซึ่งตอนที่เขาอาศัยอยู่กับลูกสาวเขาใช้กำลังและทะเลาะกันบ่อยมาก ตอนนี้รู้สึกว่าอยากกระทืบมากเพราะหมันไส้ซึ่งเคยจะลงไม้ลงมือกันครั้งนึ่งแล้ว