“ฌอน ไลฟ์โค้ช” พบ ตร.แจงคดีรับเงินบริจาคไม่ได้รับอนุญาต-ฉ้อโกง เดินหน้าต่อปล่อยคอนเทนต์
ฌอน บูรณะหิรัญ พร้อมทนายความเข้าให้ปากคำตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ชี้แจงคดีเรี่ยไรเงินไม่ได้รับอนุญาต-ฉ้อโกง ยอดรับบริจาคกว่า 1 ล้านบาท ยันยังไม่ท้อ จะปล่อยคอนเทนต์ต่อ พร้อมปรึกษาผู้ใหญ่ขอคำแนะนำ
วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ สภ.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี “ฌอน บูรณะหิรัญ” ได้เดินทางพร้อมทนายอากาศ วสิกชาติ เข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปมเงินบริจาค พร้อมเปิดใจ และชี้แจงกับสื่อมวลชนว่าเงินหายไปไหน เหลือเท่าไหร่ ทำอะไรไปบ้าง
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ นายฌอน บูรณะหิรัญ เปิดเผยว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติม เงินที่ได้จากการบริจาค 1.3 ล้านบาท ใช้บริจาคไปประมาณ 1.1 ล้านบาท ยอดบริจาคเหลือประมาณ 2 แสนบาท ซึ่งหวังว่าจะได้ลงพื้นที่อีกครั้งให้โควิด-19 เบาลง ซึ่งวันนี้นำหลักฐานการเดินเงินทั้งหมดมายื่นให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน ซึ่งเงินบริจาคไม่มีเข้ามาแล้ว ต่อไปนี้ ตนจะสอบถามจากผู้ใหญ่ เพื่อขอคำแนะนำในการทำโครงการรักไม่มีเงื่อนไขต่อไป แต่จะไม่ขอรับบริจาคทุกช่องทาง ส่วนเรื่องไลฟ์โค้ชตนไม่เคยรับเงินกับผู้ที่มาปรึกษา และเป็นการยืนยันว่าเป็นการทำคอนเทนต์ ซึ่งตนจะหาคอนเทนต์ปล่อยออกมาเรื่อย และฝากขอบคุณสำหรับทุกคนที่ติดตาม
ทนายอากาศ วสิกชาติ ทนายความของ ฌอน กล่าวว่า วันนี้ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม เนื่องจาก สภ.ปากเกร็ด ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความไว้ ก็จะมีการเพิ่มข้อหาส่วนของจำนวนผู้เสียหายที่เหลือก็จะเป็นการส่งหลักฐานที่นำมาทั้งหมด ตนจึงมาให้ปากคำเพิ่มเติมและได้มีการเรียกพยานมาให้ปากคำ แต่อาจจะมีช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก คดีจึงชะลอตัวเล็กน้อย ตนได้นำเอกสารการเงินมายื่นให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านำเงินไปใช้อะไรบ้าง ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาเดิม คือ ติดตาม พ.ร.บ เรี่ยรายโดยไม่มีใบอนุญาต และจะนำไปสู่คดีฉ้อโกง ซึ่งนำหลักฐานมาทั้งหมดนี้จะมีโครงการประมาณ 36 โครงการ ที่ฌอนไปบริจาคมาจริง จะแสดงให้เห็นว่าไม่มีการฉ้อโกง ซึ่งหลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนพิจารณาว่าจะส่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง หลังจากที่ให้ปากคำเสร็จ ทางเจ้าหน้ามี่ตำรวจจะสรุปสำนวนต่างๆ ซึ่งจากที่ฟังจากพนักงานสอบสวน ค่อนข้างมั่นใจว่าหลักฐานเพียงพอแล้ว ซึ่งทางเราได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะมีพยานหลักฐานครบถ้วน