MGR Online - ยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด “ป.ป.ส.” นำขายทอดตลาด 7 เดือน 4,899 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์กว่า 159 ล้านบาท ย้ำขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทุกมิติ
วันนี้ (28 เม.ย.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานการขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติด ตั้งแต่ ต.ค. 63 - เม.ย. 64 รวม 7 เดือน โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินทั้งหมดรวม 4,899 รายการ มูลค่าทรัพย์กว่า 159,442,456 บาท โดยเป็นทรัพย์สินที่ไม่เหมาะสมจะเก็บรักษา ขายได้ทั้งหมด 4,189 รายการ แบ่งเป็น ยานพาหนะ จำนวน 868 รายการ อื่นๆ (เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือสื่อสาร สิ่งมีชีวิต โมเดล) จำนวน 3,321 รายการ ยอดเงินที่ขายได้ 123,850,569 บาท และนอกจากนี้ ยังมีส่วนทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ริบตกเป็นของกองทุน ป.ป.ส. จำนวน 710 รายการ แบ่งเป็น ทองรูปพรรณ เครื่องประดับ จำนวน 484 รายการ ยานพาหนะ จำนวน 37 รายการ ที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 15 รายการ อื่นๆ (ปืน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือสื่อสาร) จำนวน 174 รายการ ยอดเงินที่ขายได้ 35,591,887 บาท
นายวิชัย กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วน ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำให้มีการขยายผลเพื่อจับกุม ตัดวงจรทำลายเครือข่ายนายทุน ผู้อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติด และจัดตั้งกลไกการบูรณาการการปราบปรามยาเสพติด เพื่อสืบสวนขยายผลยึดทรัพย์สิน ตัดวงจรการเงินทุกรูปแบบ ให้ครอบคลุมทุกมิติ รวมถึงการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในเรื่องการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด โดยคดีตรวจสอบทรัพย์สินแยกจากคดีอาญา และนำหลักการยึดทรัพย์สินตามมูลค่า (Value-based confiscation) มาใช้ในฐานคิดคำนวณเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ เพื่อยึดทรัพย์สิน ให้ถึงเป้าหมายการดำเนินงานยึดทรัพย์จากเครือข่ายยาเสพติด ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ตั้งไว้ให้เพิ่มขึ้น เป็น 10 เท่า จากที่ผ่านมา หรือไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท โดยการจับกุมยาเสพติดทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนน้อยหรือจำนวนมาก สิ่งที่ตามมา คือการสืบสวนขยายผลให้ถึงผู้อยู่เบื้องหลังไปเรื่อยๆ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้เราเชื่อมโยงจนเห็นภาพและส่งผลกระทบต่อเครือข่ายการค้ายาเสพติดแล้ว การยึดทรัพย์จากเครือข่ายเหล่านี้ ยังนำมาสนับสนุนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอีกด้วย
นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้มีคำสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินจากเครือข่ายการค้ายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากข่าวสารที่มีออกไป นอกจากทรัพย์สินประเภท บ้าน รถ ที่ดิน นาฬิกา ยังมีทรัพย์สินที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ เช่น ฟิกเกอร์โมเดลตัวการ์ตูน หรือ การขายทอดตลาดแมวที่จังหวัดระยอง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งไม่มีชีวิต หรือสิ่งมีชีวิต ซึ่งหากไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ทราบได้ว่า ของเหล่านี้ได้ซื้อหรือครอบครองโดยไม่มีที่มาจากแหล่งเงินใด สุดท้ายก็จะต้องถูกนำมาขายทอดตลาด ซึ่งการขายทอดตลาดเหล่านี้ เพื่อนำเงินที่มาจากการกระทำผิดกลับคืนสู่ประเทศ และสร้างประโยชน์ต่อประชาชน สำหรับผู้ที่สนใจประมูลทรัพย์สินที่ยึดมาจากเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งมีทรัพย์สินหลายประเภท ขายรูปพรรณ ขายยานพาหนะ และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ฯลฯ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ หรือ เพจเฟสบุ๊กของ สำนักงาน ป.ป.ส.
“ขอให้พี่น้องประชาชนทราบว่ารัฐบาลได้มุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติของพี่น้องประชาชน แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและทางราชการไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการช่วยกันสอดส่องดูแลในสังคม ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อช่วยลดปัญหายาเสพติดของประเทศ ทั้งนี้ หากพบผู้มีพฤติการณ์ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง”