MGR Online - อธิบดีดีเอสไอแจงพบเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย ปิดสำนักงานทำความสะอาดฆ่าเชื้อเต็มรูปแบบ สั่งกักตัวผู้เกี่ยวข้องลดการแพร่ระบาด
จากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และกระจายไปทุกจังหวัด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีการประกาศให้บุคลากรปฏิบัติงานภายในที่พักอาศัย (Work from home) เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยต้องมีบุคลากรมาปฏิบัติงานที่สำนักงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม องค์กร และการปฏิบัติงานในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน
ล่าสุดวันนี้ (22 เม.ย.) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีข้าราชการดีเอสไอติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 1 ราย ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวภายในโรงพยาบาลของรัฐแล้ว โดยศูนย์อำนวยการและประสานงานการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เร่งดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อเต็มรูปแบบในพื้นที่สำนักงาน บริเวณชั้น 8 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) โดยในวันที่ 23 เม.ย.นี้จะปิดทำการสำนักงานดังกล่าวเป็นเวลา 1 วันเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อเต็มรูปแบบอีกครั้ง ตามแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
“ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อทำการกักตัวและให้ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน โดยกำชับให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด รับผิดชอบต่อตนเอง ต่อคนรอบข้าง และต่อสังคม พร้อมทั้งได้ประสานงานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อจัดส่งแพทย์มาทำการตรวจเชื้อให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอในวันที่ 26 เม.ย. และ 5 พ.ค. โดยได้รับการสนับสนุนชุดอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด พร้อมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล PPE จากศูนย์บริการสาธารณสุข 53 ทุ่งสองห้อง สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร”
พ.ต.ท.กรวัชร์เผยอีกว่า ดีเอสไอมีการระวังป้องกันการแพร่ระบาดภายในองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เตรียมการและใช้มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มแข็งมาตั้งแต่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดแล้ว ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นที่ส่วนรวมในอาคาร การกำหนดให้ใช้หน้ากากอนามัย รวมถึงรณรงค์เกี่ยวกับระยะห่างทางสังคมในการปฏิบัติงาน โดยกำชับให้บุคลากรปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด จึงทำให้โอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายภายในองค์กรมีน้อยลง
พ.ต.ท.กรวัชร์เผยต่อว่า ส่วนของการปฏิบัติงานนั้น มีการใช้ระบบการปฏิบัติงานบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งรองรับการปฏิบัติงานจากนอกที่ตั้งเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าเป็นระบบฐานข้อมูลเพื่อการปฏิบัติงาน, ระบบบริหารงานคดีพิเศษ หรือสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น รวมทั้งระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ ซึ่งผู้บริหารและบุคลากรในสังกัดสามารถใช้ในการปฏิบัติงานได้โดยที่ไม่แตกต่างกับการเข้าปฏิบัติงาน ณ สำนักงาน รวมทั้งสามารถระดมสรรพกำลังเพื่อปฏิบัติงานได้ทันทีที่มีความจำเป็น
“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระหว่างนี้ หากประชาชนมีความจำเป็นต้องติดต่อราชการกับดีเอสไอยังสามารถเดินทางมาติดต่อได้ แต่หากไม่จำเป็นต้องพบปะเจ้าหน้าที่โดยตรง หรือไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ท่านสามารถใช้การติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางอื่นที่ได้จัดทำไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เช่น สายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) หรือส่งจดหมายมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210”
สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อรายดังกล่าว ย้อนหลัง 14 วัน มีดังนี้
วันที่ 7-9 เม.ย. : บ้านพัก-ที่ทำงาน-บ้านพัก
วันที่ 10-15 เม.ย. : บ้านพัก
วันที่ 16 เม.ย. : บ้านพัก-ที่ทำงาน-บ้านพัก
วันที่ 17-18 เม.ย. : บ้านพัก
วันที่ 19 เม.ย. : บ้านพัก-ที่ทำงาน-บ้านพัก (บุตรชายตรวจพบเชื้อ)
วันที่ 20 เม.ย. : กักตัวที่บ้านพัก
วันที่ 21 เม.ย. : เดินทางไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
วันที่ 22 เม.ย. : ผลตรวจพบเชื้อ และเข้ารับการรักษาตัวภายในโรงพยาบาลของรัฐ
หมายเหตุ : บ้านพักย่านโชคชัย 4, ที่ทำงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 8 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B)