xs
xsm
sm
md
lg

ศาลเบิกตัว “เพนกวิน” ตรวจหลักฐานคดีจัดม็อบ 13-15 พ.ย.หมิ่นเบื้องสูง ทนายเผยร่างกายอ่อนแอลงแต่ยังไม่เลิกอดอาหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลเบิกตัว “เพนกวิน” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อตรวจหลักฐานคดีหมิ่นเบื้องสูง กรณีจัดม็อบที่อนุสาวรีย์ ปชต. 13-15 พ.ย.63 ด้านทนายเผยลูกความร่างกายอ่อนแอลงจากการอดอาหาร แต่ยังยืนยันเจตนารมณืเดิม พร้อมหารือเรื่องประกันตัวอีกครั้ง

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีหมายเลขดำที่ อ. 286/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำคณะราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย. 2563 จำเลยได้กระทำผิดกฎหมายหลายครั้งโดยโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวนัดรวมพลชู 3 นิ้วบ่ายสอง หน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 5,000 คนเข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งจำเลยได้ใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยพาดพิงบิดเบือนใส่ร้ายรัชกาลที่ ๑๐ ในทางที่เสียหาย เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อันเป็นการยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเกิดความกระด้างกระเดื่อง เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันฯ ดูหมิ่นองค์พระมหากษัตริย์ ราชินี และองค์รัชทายาท ตาม ม.112 เหตุเกิดที่แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ

ในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน จำเลยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยอยู่ในชุดนักโทษ สวมหน้ากากอนามัย  นั่งรถวีลแชร์และต้องให้น้ำเกลือตลอดเวลาเนื่องจากอดอาหารประท้วงศาล

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจำเลย เปิดเผยว่า วันนี้มาศาลตามนัดตรวจพยานหลักฐาน และส่วนตัวยอมรับว่ามีอุปสรรคในการปรึกษาหารือกับนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน เรื่องแนวทางการต่อสู้คดี จึงขอความเป็นธรรมให้ศาลเปิดโอกาสให้พูดคุยกับลูกความ ทั้งนี้ เพนกวินมีสภาพร่างกายอ่อนแอลงเนื่องจากอดอาหาร และกล่าวยอมรับว่าที่ผ่านมามีหลายคนออกมาขอให้เพนกวินยุติการอดอาหารแต่ไม่เป็นผลเพราะเพนกวินยังยืนยันในเจตนารมณ์เดิม ขณะที่ครอบครัวของเพนกวินมีความประสงค์จะให้ยื่นประกันตัวต่อศาลอีกครั้ง แต่ในฐานะทนายความมองว่าการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นไปได้ยาก และวันนี้จะสอบถามความคิดเห็นของเพนกวินในประเด็นนี้อีกครั้ง

ด้านนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ที่เดินทางมาศาลอาญา กล่าวว่า ตั้งใจมาเพื่อพบหน้าลูกชายเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะในช่วงที่ผ่านมามีข่าวว่าลูกชายมีอาการวูบเป็นลม น้ำตาลตก และเลือดไหลออกจากสายน้ำเกลือ ทำให้รู้สึกเป็นห่วง ส่วนการที่ตนเองออกมาทำกิจกรรมทางการเมืองเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวลูกชายนั้นก็ส่งผลต่อการทำงาน แต่พยายามแบ่งเวลาไปทำงานในช่วงกลางดึกแทน เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ถึงแม้ว่าเหนื่อยแต่ก็จะสู้ต่อไป

สำหรับบรรยากาศการตรวจพยานหลักฐาน
 เมื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวนายพริษฐ์หรือ เพนกวินจากห้องควบคุมใต้ถุนศาล ขึ้นมาภายในห้องพิจารณา นายพริษฐ์หรือเพนกวิน ขอให้เพื่อนผู้ชาย 2 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ เข้ามาในห้องพิจารณาคดีด้วยเพื่อปรึกษาเรื่องการเรียน และศาลได้อนุญาตให้เพนกวิน หารือกับเพื่อน ทนายความ แม่ และน้องสาว ประมาณ 2 ชั่วโมง

จากนั้นนายพริษฐ์หรือ เพนกวิน ได้พยายามลุกขึ้นจากรถเข็นแต่ไม่สามารถพยุงตัวลุกได้ ศาลจึงให้นั่งแถลง ซึ่งนายพริษฐ์หรือเพนกวินเพนกวิน ได้แถลงต่อศาลโดยการพูดอย่างช้าๆ มีเนื้อหาว่า

"ข้าแต่ศาลที่เคารพเนื่องด้วยข้าพเจ้ายังไม่ต้องคำพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายมาตราใด ๆ ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ การที่ศาลคุมขังข้าพเจ้าไว้ทำให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นกระบวนการนี้ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่ขอยอมรับ ขอปฏิเสธทุกกระบวนการไม่ลงลายมือชื่อใด ๆ จนกว่าจะได้รับสิทธิการประกันตัวและสู้คดีอย่างเต็มที่"

ศาลจึงอธิบายให้นายพริษฐ์ หรือ เพนกวินฟังว่า กระบวนการในวันนี้เป็นนัดตรวจพยานหลักฐานถ้าไม่กำหนดวันนัดคดีเพื่อสืบพยานก็จะทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเพนกวินปฏิเสธไม่ยอมรับกระบวนการก็จะบันทึกที่เพนกวินแถลง

นายพริษฐ์ หรือ เพนกวินได้แถลงว่า "ผมขอปฏิเสธเพราะผมไม่มีสิทธิ์ประกันตัวจะทำให้ผมต่อสู้คดีได้ไม่เต็มที่ และขอถอนทนายความไปพร้อมกัน นับจากวันนี้เป็นต้นไป"

ขณะที่บรรยากาศด้านนอกห้องพิจารณาคดีมีกลุ่มเพื่อนมานั่งรอให้กำลังใจและเมื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เข็นรถเข็นนายพริษฐ์ หรือ เพนกวินออกมาจากห้องพิจารณาคดีเพื่อลงไปห้องควบคุมใต้ถุนศาล มีผู้หญิงที่อยู่ด้านนอกห้องได้ขอร้องให้เลิกอดอาหารเพราะสงสารแม่ ส่วนเพื่อนๆ บอกขอให้เพนกวินสู้ ๆ ซี่งนายพริษฐ์หรือ เพนกวินได้ชูสามนิ้วตอบรับ แต่ไม่ได้พูดตอบโต้
กำลังโหลดความคิดเห็น