“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 7 เมษายน 2564 ตอน นรกแตก โควิดรอบ 3 คนการเมืองแพร่เชื้อ
วันนี้ นับว่าโควิด-19ระบาดในไทยเป็นรอบที่สามแล้ว เชื้อไวรัสกำลังแพร่กระจายไปในวงกว้างทั่วประเทศ พบคนติดเชื้ออมโรคแล้วทุกชนชั้น โดยเฉพาะกับคนป่วยกลุ่มแรกส่วนใหญ่เป็นคนมีอันจะกิน และมีหน้ามีตาทางสังคม เป็นคนชอบเที่ยวกินดื่ม และย่ำราตรีในที่อโคจร
พวกนี้ติดเชื้อมาจากสถานบันเทิงย่านซอยทองหล่อ มีทั้งดารา นักร้อง คนทำงานในผับบาร์ และยังมีคนระดับรัฐมนตรี ก็มีชื่ออยู่ในกลุ่มเสี่ยงในคลัสเตอร์ทองหล่อด้วย ที่ระทึกใจก็คือมีคณะทำงานคนใกล้ตัวนาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้ว
ทำให้ศักดิ์สยาม ต้องประกาศกักตัวเอง 14 วันตามระเบียบ แต่ศักดิ์สนามปฏิเสธว่าได้ตรวจหาเชื้อรอบแรกแล้ว ผลไม่ติดเชื้อ เดือดร้อนไปถึงส. ส. พรรคภูมิใจไทยทั้งพรรค 61 ชีวิตที่สัมผัสใกล้ชิดคณะศักดิ์สยาม ก็คงต้องไปเช็คหาเชื้อและกักตัวตามเลขาธิการพรรคด้วย
แต่ยังกระฉอกมาถึงเพื่อนส. ส. พรรคอื่น และคนอื่นๆที่ไปงานวันครบรอบก่อตั้งพรรคภูมิใจไทยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่าน ก็พลอยฟ้าพลอยฝน ต้องโดนไปตรวจหาเชื้อ และเก็บตัวกันด้วย อ้างขอไม่มาประชุมสภาที่เปิดวิสามัญในระหว่างวันพุธกับพฤหัสนี้
วงจรการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่พรรคภูมิใจไทย น่ากลัวมาก น่ากลัวเพราะมีความอึมครึม เนื่องจากตอนนี้ไม่มีการเปิดเผยให้รู้แจ่มแจ้ง ในรายละเอียดทั้งหมดเหมือนกลุ่มอื่นๆ
ไม่ได้เปิดมาว่า มีใครติดเชื้อโควิดมากี่คน ไปติดเชื้อจากที่ไหน ไปรับเชื้อมาจากคริสตัล เลาจน์ซอยทองหล่อหรือไม่ นายศักดิ์สยามบอกแค่ว่า มีทีมงานหน้าห้อง เจอผลตรวจเป็นบวกแล้วเท่านั้น ไม่ยอมบอกว่า ไปติดเชื้อจากที่ไหน เมื่อไหร่ ติดจากใครมา และหลังจากนั้นไปไหนมาบ้าง
เป็นความอึมครึม ที่น่าเคลือบแคลงสงสัย ว่ามีลับลมคมในไม่ยอมให้รายละเอียดเรื่องนี้หรือไม่ ทำไมมีอาการอึดอัดชักช้าที่จะพูดเรื่องนี้ ถ้าจะให้ดี พรรคภูมิใจไทย ต้องทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฎ โดยเร็ว ให้สังคมได้รู้อย่างกระจ่าง ไร้ข้อกังขา ก่อนที่สังคมไทยจะกลายสภาพเป็นเหมือนนรกแตก
เพราะความที่ภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมือง เป็นตัวแทนประชาชน ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคม กว่าคนธรรมดา อีกทั้งยุคนี้ยังมีหัวหน้าพรรค เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นแม่ทัพใหญ่สู้โควิด-19 ทำดีมาตลอดตั้งแต่เกิดโควิด-19 ระบาดมาปีกว่า จะมาตกม้าตายเพราะคนของพรรคเองอย่างนั้นหรือ
ทีคนอื่นติดเชื้อมา ยังไล่บี้ ให้เขาเปิดเผยไทม์ไลน์แบบเข้มงวด เอาเป็นเอาตาย ทีคนในขอบข่ายแวดล้อมกับพรรคเป็นมาบ้าง ก็คล้ายจะบ่ายเบี่ยงไม่เปิดเผยไทม์ไลน์ แบบนี้สังคมคงนินทา และไม่ยอมแน่ๆ
เป็นความเหลื่อมล้ำต่ำสูงเห็นได้ชัด ในการเปิดไทม์ไลน์ ขณะที่หน้าห้องรมต. ศักดิ์สยาม ติดเชื้อแต่ยังไม่ยอมเปิดออกมา ในขณะเดียวกันศิลปินนักร้องอย่าง แสตมป์ ที่ติดเชื้อโควิด-19 ไปเหมือนกัน คงจะติดจากซอยทองหล่อเหมือนกัน หรือปีโป้ ก็เป็นอีกที่เจอโควิดเล่นงาน ได้แจงไทม์ไลน์ไปหมดแล้ว
แม้แต่น้องฟ้าใส สาวเอ็นฯดาวเด่นในคริสตัลบาร์ ก็บอกผ่านสื่อส่วนตัวมาว่าติดเชื้อ และฝากไปถึงคนที่มานัวเนียที่คริสตันบาร์ให้รีบไปตรวจ...เห็นว่าคนเหล่านี้รับผิดชอบกับสังคม ด้วยจิตสำนึก ทำตามกติกาที่รัฐบาลสั่ง นักการเมืองกลับเก็บไทม์ไลน์เงียบ
แต่ตอนนี้ คนในสังคมเขารู้กันไปทั่วแล้วว่า มีคนดังใครบ้าง ไปเที่ยวแถวซอยทองหล่อเป็นประจำ ไปแต่ละคืน ก็ยกพวกไป ซึ่งคริสตัลบาร์ มีคนป่วโควิด-19เกือบทั้งบาร์ แล้วพณฯ ที่เป็นแขกขาประจำวีไอพี รอดได้คงเป็นเรื่องปาฏิหาริย์แล้ว
นักการเมืองติดเชื้อโควิดไม่ใช่เรื่องแปลก ก่อนหน้านี้ ผู้นำโลกอย่างประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ หรือ นายบอรีส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษ เป็นกันมาแล้ว ติดเชื้อมาจากการทำงาน แต่นักการเมืองไทยติดเชื้อจากการเที่ยวย่ำราตรี
ย้อนมาที่ประเด็นการระบาดโควิด-19 รอบสาม แพทย์บอกว่า อาการป่วย โรคจะหลบใน ไม่แสดงอาการ จนกว่าจะป่วยขั้นรุนแรงจึงจะรู้ ซึ่งเชื่อว่า มีคนติดโควิด-19 จำนวนมาก แพร่กระจายไปยังสังคมชนชั้นระดับต่างๆ ในพื้นที่ทั่วไทยแล้ว
ก่อนหน้าที่จะเจอที่คลัสเตอร์ซอยทองหล่อ กับนักเที่ยวราตรี และผีเสื้อราตรีสาวเอ็นฯทั้งหลาย มีพบการแพร่ระบาดที่ตลาดบางแค แต่ที่บางแคดูเหมือนจะรุนแรง ไม่กี่วันข่าวก็เงียบไปอย่างแปลกๆ
หลังจากที่พบคนเป็นโควิด-19จากสถานบันเทิงซอยทองหล่อ ตัวแพร่เชื้อก็ไปปล่อยเชื้อที่เชียงใหม่ และไม่รู้พวกซุปเปอร์สเปรดเดอร์เหล่านี้จะพาโควิด-19 ไปเที่ยวปล่อยทิ้งไว้ที่ไหนอีก ซึ่งตอนนี้ทั้งทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา ทั้งรัฐมนตรี ส. ส. และส. ว. ต่างรักตัวกลัวตาย ชิงขอหยุดงาน กันพัลวัน
ก่อนที่หายนะจะมาเยือนมากกว่านี้ ก่อนที่พวกนักการเมืองจะเป็นตัวร้ายแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม
ด้วยการให้รัฐมนตรี และนักการเมืองทั้งหมด ตลอดถึงคณะทำงานรัฐมนตรีและส. ส. ทุกคนในรัฐสภา มาสอบสวนโรค หากพบใครป่วยหรือติดเชื้อ ต้องเปิดเผยความจริงออกมาให้หมด
ทำให้เหมือนเคยทำกับเซียนมวย จากสนามมวยลุมพินี ในการระบาดรอบแรก และตามไล่ล่าตัวเหมือนสั่งจัดการกับสาวคาราโอเกะท่าขี้เหล็ก ที่เอาเชื้อโรคข้ามพรมแดนเข้ามา
การแพร่ระบาดโควิด ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐระดับล่าง ให้ความร่วมมือในการป้องกันควบคุมโรคเป็นอย่างดี สั่งอะไรมาก็ทำตามหมด จนผ่านสองรอบมาด้วยดี ทำให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้ชื่อเป็นที่ยกย่องในการจัดการปัญหาโควิด-19 ไปทั่วโลก
แต่คราวนี้คนในวงการเมือง กลายเป็นตัวร้ายในการแพร่เชื้อเสียเอง เพราะไปแสวงหาโรคมาเองจากการเที่ยวสถานบันเทิง พลเอก ประยุทธ์ กับ นายอนุทิน จะว่ายังไง? จะเปิดความจริง หรือไม่