รอง ผบ.ตร.ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ บริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ถนนประเสริฐมนูกิจ
วันที่ 1 เม.ย. 2564 เมื่อเวลา 22.00 น. พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.จร. เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่บริเวณหน้าปั๊ม ปตท. ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม.
โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์กล่าวว่า ตามที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้มีข้อสั่งการให้เตรียมความพร้อมเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2564 โดยให้เริ่มบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ตามมาตรการ 10 ข้อหาหลัก อย่างเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 64 จนถึงวันที่ 23 เม.ย. 64 จึงได้กําชับมาตรการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งจุดตรวจเพื่อบังคับ ใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกและความผิดอื่นที่เกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง เพื่อให้การปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งจุดตรวจ เพื่อบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพเกิดความปลอดภัยและสะดวกในการจราจร และ เพื่อเป็นการกําหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานจราจรให้เป็นไปตามหลักกฎหมาย เป็นมาตรฐานสากล มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่กระทบสิทธิกับประชาชนเกินสมควร จึงกําหนดมาตรการปฏิบัติเกี่ยวกับ การตั้งจุดตรวจ โดยกําชับการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย แนวทางและขั้นตอนที่ ตร.กําหนดอย่างเคร่งครัด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการปฏิบัติสำหรับการตั้งจุดตรวจมีดังนี้ 1. ต้องได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาระดับผู้บังคับการขั้นไป 2. การตั้งจุดตรวจต้องมีแผนการปฏิบัติที่ชัดเจน 3. จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องมีป้ายแสดงให้ประชาชนมองเห็นได้ 4. จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์พิจารณาจากข้อมูลผู้กระทำความผิด สถิติการเกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับความปลอดภัยของประชาชนและตำรวจและความสะดวกมีที่จอด-ไฟฟ้าเพียงพอ 5. จุดตรวจมีแผงกั้นที่มาตรฐานแสงไฟส่องสว่างชัดเจนมีแผงป้ายแสดง ยศ ชื่อ นามสกุลและตำแหน่งของหัวหน้าด่านตรวจ 6. สื่อสารอธิบายข้อกฎหมายให้ผู้กระทำความผิดเข้าใจโดยใช้กิริยาวาจาที่สุภาพ 7. การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้และป้องกันการทุจริต ได้แก่ นำกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่สามารถดูการตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้แบบปัจจุบัน (Real Time) และกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวชนิดติดตัวหรือหมวกนิรภัยของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจและบันทึกข้อมูลผู้ขับขี่และผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ลงในระบบ TPCC (Traffic Police Checkpoint Control) หากมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกินกฎหมายให้พิมพ์เอกสารผลการตรวจให้ผู้ขับขี่เป็นหลักฐาน
ขณะที่ผู้ขับขี่รถรายหนึ่งกล่าวว่า การตั้งตรวจแอลกอฮอล์อย่างน้อยเรื่องอุบัติเหตุน่าจะลดลง เพราะสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ส่วนเรื่องขั้นตอนต่างๆ ที่มากขึ้นนั้นถือว่าเป็นข้อดี ช่วยในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการตรวจแอลกอฮอล์ของเจ้าหน้าที่จาก บก.จร.นั้น พบผู้ขับขี่รถยนต์รายหนึ่งเป่าเบื้องต้นแล้วมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน จึงเชิญมาเป่าซ้ำเพื่อยืนยันที่บริเวณจุดตรวจ พบปริมาณแอลกอฮอล์สูง 123 มิลลิกรัม จึงดำเนินการแจ้งข้อหาตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป