xs
xsm
sm
md
lg

“สิระ” พร้อมผลักดันแก้ กม.ตรวจเมาแล้วขับ ขู่ฟัน ตร.เอื้อประโยชน์ ลั่นจนรวยต้องเท่าเทียม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปธ.กมธ.กฎหมาย รับหนังสือมูลนิธิเมาแล้วขับ เตรียมผลักดันแก้ กม.ตรวจแอลกอฮอล์เมาแล้วขับ ขู่จัดการตำรวจเอื้อประโยชน์ตัวเอง-พวกพ้อง ลั่นคนรวย-จนต้องเท่าเทียม

วันนี้ (19 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เพื่อขอให้ผลักดันกฎหมายให้มีการตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดย นพ.แท้จริงกล่าวว่า จากความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 คนต่อปี บาดเจ็บประมาณ 1 ล้านคน และประมาณครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ มีความเกี่ยวพันกับการดื่มเครื่องดื่มอลกอฮอล์ และขณะนี้ยังไม่มีการตรวจแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ทุกราย ทำให้ผู้ขับขี่ที่มึนเมาไม่ถูกดำเนินคดี และไม่เกิดวามกลัว ไม่เข็ดหลาบ โดยให้เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดข้อครหาจากประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเชิงลบ

ด้านนายสิระกล่าวว่า มูลนิธิเมาไม่ขับได้รับการร้องเรียนจากประชาชนฃอยู่ตลอดเวลา และมีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายให้มีการตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่กับผู้ที่ก่อเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิต แม้ว่าจะเสนอให้มีการตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุมาหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข จึงขอให้คณะ กมธ.ช่วยผลักดันกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อความยุติธรรมของประชาชนที่ถูกคนเมาละเมิดสิทธิบนท้องถนน ดังนั้น ตนจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะ กมธ.เพื่อพิจารณา และจะตั้งคณะทำงานเพื่อยกร่างกฎหมายให้มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่เมาแล้วขับ ให้เกิดวามเป็นธรรมแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นมาตรฐานเดียวกัน และขอยืนยันว่าทุกคนไม่ว่าจะฐานะอะไร จนหรือรวยจะต้องได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันไม่มีการยกเว้น

“ผมจะผลักดันกฎหมายเอาผิดเกี่ยวกับคนที่ทำผิดบนท้องถนน ไม่ว่าจะทำผิดหรือไม่ทำผิด จะต้องมีบทลงโทษ อย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ดุลพินิจเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายต้องทำให้ถูกต้อง ถ้าใช้ดุลพินิจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องจะต้องถูกดำเนินการ เพราะคนที่ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต พิการไม่รู้เรื่องอะไรเลยแต่ต้องมารับกรรม ผมถือว่ามีเจตนาฆ่าและอาชญากรรม” นายสิระกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น