MGR Online - ตำรวจ ศปชก.ตร.บุกรวบแก๊งโปรแกรมเมอร์ชาวจีน ทำเว็บพนันออนไลน์ อีกรายจับกุมแก๊งรัสเซียรับจ้างปลอมเอกสาร ประกอบการขอต่อวีซ่า
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ
ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปชก.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รอง ผบช.ภ. 1 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายต่างชาติ เป็นเครือข่ายแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ โดยการปลอมเอกสารทางการเงิน การใช้ระบบการเงินออนไลน์ข้ามชาติ และรวบแก๊งโปรแกรมเมอร์ เปิดเว็บพนันออนไลน์จีน รวม 2 คดี
คดีที่แรกจับกุมแก๊งชาวจีนโปรแกรมเมอร์เว็บพนันออนไลน์โดย ศปชก.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 2 ได้นำหมายค้นศาลแขวงพระนครใต้เข้าตรวจค้น และจับกุมนาย Xudong Zhao กับพวกรวม 8 คน ภายในห้องพักในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านถนนสาทร 11 แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม.
โดยสืบทราบว่ามีกลุ่มคนสัญชาติจีนเช่าห้องพักลักลอบทำงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการบุกตรวจค้นพบกลุ่มคนสัญชาติจีนดังกล่าวกำลังใช้งานระบบคอมพิวเตอร์โดยเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับเว็บพนันออนไลน์
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีหัวหน้าชาวจีนสั่งการตรงจากประเทศจีนเพื่อให้ทำระบบการพนันออนไลน์ โดยมีลูกค้าจากประเทศจีนจำนวนมาก และกำลังขยายการเชื่อมโยงไปยังหลายประเทศ โดยอาศัยช่วงสถานการณ์โควิด-19 เป็นโอกาสใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการเชื่อมโยง และรับค่าจ้างเป็นรายเดือนแล้วแต่ความยากง่ายของงาน
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย มีสถานะอยู่ในประเทศเกินกำหนดอนุญาต จึงได้แจ้งข้อหาให้ “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมยึดของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และเครื่องเราเตอร์ที่ใช้ทำงาน เบื้องต้นส่งให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตรวจพิสูจน์ เพื่อขยายผลข้อมูลการทำงานความเชื่อมโยงต่อกลุ่มขบวนการต่างๆ การเชื่อมโยงทางการเงินทั้งในไทยและต่างประเทศ ประสานการกวาดล้างทั้งระบบต่อไป
คดีที่ 2 ตำรวจ ศปชก.ตร. ในส่วน บช.ภ. 2 ภ.จวชลบุรี และ กก.สส.บก.ตม.3 ได้นำหมายค้นศาล จ.พัทยา ที่ 50/2564 ลงวันที่ 20 มี.ค. 64 ให้เข้าตรวจค้นบ้านจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาสัญชาติรัสเซีย ปลอมเอกสารธนาคารประกอบการขออยู่ต่อในราชอาณาจักร คือ น.ส.ไอรีน่า โปรคาเชว่า อายุ 59 ปี และ นายอเล็กซี่ ลูปตอฟ อายุ 63 ปี
พร้อมของกลางเป็นธนบัตรไทย และสำเนาหนังสือเดินทางรวมถึงเอกสารรับรองจากธนาคาร SBERBANK ในประเทศรัสเซีย ระบุชื่อชาวรัสเซียจำนวนมาก สืบเนื่องจากชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีพฤติการณ์ลักลอบปลอมเอกสารรับรองทางการเงินจากธนาคารในรัสเซียผ่านระบบออนไลน์ชื่อวีเค ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายอาหารบังหน้าโดยจะออกเอกสารปลอมดังกล่าวเพื่อให้ลูกค้าชาวรัสเซียทำวีซ่าประเภทใช้ชีวิตบั้นปลายที่อยู่ในประเทศไทย
เพื่อนำไปยื่นกับสถานทูตรัสเซียในไทยเพื่อให้สถานทูตออกหลักฐานรับรองนำไปยื่นต่อ ตม. ทำเรื่องขออยู่ต่อ โดยเหตุที่ต้องออกเอกสารธนาคารปลอมเนื่องจากชาวรัสเซียที่ขออยู่ต่อ ไม่มีเงินในธนาคารตามที่ ตม. ไทยกำหนดคือไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท หรือ 65,000 บาท ต่อเดือน โดยผู้ต้องหาได้ทำเอกสารรับรองเงินรายได้ประมาณ 70,365 บาท โดยคิดค่าใช้จ่ายรายละ 2,000 บาท
ซึ่งมีข้อมูลทางการข่าวว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเสี่ยงต่อการที่กลุ่มอาชญากรชาวรัสเซียใช้เป็นช่องทางการขออยู่ต่อเพื่อสร้างอิทธิพลในกลุ่มชาวรัสเซีย โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น พัทยา จึงควบคุมตัวนำส่งตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และจะขยายผลสืบสวนจับกุมกลุ่มชาวรัสเซียที่ใช้เอกสารปลอมขออยู่ต่อของผู้ต้องหา พร้อมกับประสานสถานทูตรัสเซียเพื่อป้องกันการกระทำผิดดังกล่าว
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ. การทำงานคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 และเข้าข่ายมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงฯ บุคคลต่างด้าวต้องห้ามตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวต่อว่า ศปชก.ตร. ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ทำการสืบสวนป้องกันและปราบปรามกลุ่มอาชญากรข้ามชาติผิดกฎหมายโดยตนในฐานะ ผอ.ศปชก.ตร. ได้ประชุมปฏิบัติการให้อาศัยโอกาสในช่วงสถานการณ์โควิด ที่มีการระงับการเดินทางเข้าออกประเทศ เร่งกวาดล้างชาวต่างชาติที่ใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการกระทำผิดระหว่างประเทศ