MGR Online - ปปง.ตัดท่อน้ำเลี้ยงการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ยึดทรัพย์แก๊งค้าสัตว์ป่า กว่า 200 ล้านบาท เอาผิดตามกฎหมายฟอกเงิน
วันนี้ (16 มี.ค.) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ปัญหาการก่ออาชญากรรมระหว่างประเทศ ในเรื่องการลักลอบค้าสัตว์ป่า รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญ และได้กำหนดให้เป็นนโยบายเร่งด่วนลำดับต้น และให้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาคมโลก ว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยสำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่องเพื่อตัดวงจรและท่อน้ำเลี้ยงในการก่ออาชญากรรม โดย ปปง. ได้มีการเสนอให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด นายบุญชัย แบกส์ กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่าข้ามชาติ ตัวลิ่น นอแรด งาช้าง แก๊งค์ลักเสือจากสวนสัตว์ ล้มช้างเอางา
ทั้งนี้ นายบุญชัย กับพวก ได้ลักลอบกระทำความผิดเป็นขบวนการมาเป็นเวลานานนับสิบปี มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลายกลุ่ม และได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดจำนวนมาก มีเงินหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 330 ล้าน เช่น โรงแรมพร้อมกิจการ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง บัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 20 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท พร้อมดอกผล และคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 64 มีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินตามที่เสนอ เพื่อปราบปรามขบวนการนี้อย่างเด็ดขาด
“ปปง. ได้ทำการขยายผลปิดล้อมตรวจค้นสถานที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดนครพนม และชัยภูมิ เพื่อดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 64 จากการตรวจค้นพนักงานเจ้าหน้าที่พบทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม จำนวน 22 รายการ ได้แก่ เงินสด, พระเครื่อง, อาวุธปืน, เฟอร์นิเจอร์ไม้, รถยนต์, กวาง, เนื้อทราย รวมมูลค่าประมาณ 3,244,860 บาท พร้อมดอกผล ได้มีคำสั่งให้ยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดนั้นตามมาตรา 48 วรรคสองไว้ดำเนินการตามกฎหมายและจะได้รายงานให้คณะกรรมการธุรกรรมทราบต่อไป”
สำหรับการดำเนินการในเรื่องนี้ สำนักงาน ปปง. ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช องค์กรเอกชน “มูลนิธิฟรีแลนด์” (FREELAND) ซึ่งดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมการทำงานของภาครัฐและเอกชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า และการค้ามนุษย์ จึงนำไปสู่การดำเนินการกับนายทุน ที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าและซากสัตว์ป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา สำนักงาน ปปง. ได้มีการดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์หลายคดี มีมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท และยังมุ่งดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถโทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน 1710
นอกจากนี้ ประเทศไทยเคยถูกขึ้นบัญชีดำไซเตส 2 ครั้ง ในปี 2534 และปี 2557 ผลกระทบจากการที่ประเทศไทยถูกขึ้นบัญชีดำไซเตส คือ การถูกคว่ำบาตรการค้าเชิงพาณิชย์ของสินค้า จากนั้นมารัฐบาลพยายามผลักดัน แผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย โดยรัฐบาลไทยได้ผลักดัน พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. 2558 และเพิ่มให้ “ช้างแอฟริกา” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 รวมทั้งปรับปรุงบทลงโทษและวิธีการจดทะเบียนรูปพรรณช้างเลี้ยงของไทย พร้อมทั้งการสั่งปราบปรามจับกุมงาช้างที่ผ่านเข้ามาตามด่านท่าเรือและด่านศุลกากรต่างๆ ต่อมา การประชุมสมัยสามัญไซเตสครั้งที่ 18 (CITES COP18) วันที่ 24 ส.ค. 62 มีมติถอดไทยออกจากกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการค้างาช้างผิดกฎหมายซึ่งหมายความว่าประเทศไทย “หลุดจากบัญชีดำไซเตส” เนื่องจากมีการจับกุม ยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง