MGR Online - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ รับตำรวจ-ปชช.-นักข่าว บาดเจ็บจากเหตุสลายม็อบ 20 มี.ค.ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ด้าน รอง ผบช.น.เสียใจนักข่าวถูกกระสุนยางบาดเจ็บ ยันทำตามยุทธวิธีตามหลักสากล
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ รับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมที่บริเวณท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีข้าราชการตำรวจ 50 นาย ในจำนวนนี้ 1 นาย กะโหลกแตก รวมถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ถูกลูกหลง ตลอดจนผู้สื่อข่าวที่ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทุกคน นำความปลาบปลื้มมาสู่ข้าราชตำรวจ และคนไข้อย่างหาที่สุดไม่ได้ ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้ดูแลคนเจ็บทุกราย พร้อมกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เป็นไปตามยุทธวิธี ขณะเดียวกัน ได้แสดงความเสียใจกรณีมีผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยกระสุนยางเข้าที่บริเวณศีรษะ จากการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมผู้ชุมนุมบริเวณแยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน แต่ยังยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเป็นไปตามยุทธวิธีหลักสากล มีการประกาศแจ้งเตือนให้ทราบเป็นระยะ แต่จังหวะที่ยิงเป็นช่วงที่ผู้สื่อข่าวก้มลงทำให้กระสุนยางพลาดไปโดนศีรษะ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
“ในวันดังกล่าวมีการจับกุมผู้ชุมนุมได้รวม 20 ราย ส่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดี มีการฝากขังตามขั้นตอนกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ส่วนชายสวมเสื้อลายสก๊อตที่ปรากฏภาพใช้วัตถุระเบิด ขณะนี้ตำรวจรู้ตัวแล้ว โดยมีอาชีพเป็น รปภ.และเข้าร่วมการชุมนุมบ่อยครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัว ส่วนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้น มีการทบทวนยุทธวิธีการปฏิบัติอยู่ตลอดอยู่แล้ว และจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่มีผู้สื่อข่าวบาดเจ็บ ในอนาคตอาจจะมีการพิจารณาจัดฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย” รอง ผบช.น.ระบุ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวเสริมประเด็นดังกล่าว ว่า นับตั้งแต่ ผกก.สน.ชนะสงคราม ประกาศแจ้งเตือนหลายครั้ง ให้ผู้ชุมนุมและผู้สื่อข่าวออกจากพื้นที่ จากนั้นจึงได้เริ่มปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอน เป็นมาตรฐานสากล เริ่มตั้งแต่ฉีดน้ำ เข้าจับกุมตามหลักยุทธวิธี ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าวนั้น ได้มีการประกาศแจ้งเตือนเป็นระยะๆ ให้ออกจากพื้นที่ปฏิบัติการ ตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งสื่อไทย สื่อต่างประเทศ ที่อยู่ในพื้นที่ ได้รับทราบแนวปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจยืนยันว่า ทำหน้าที่ตามกรอบกฎหมาย ตามกฎการใช้กำลังจากเบาไปหาหนัก เป็นมาตรการที่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต จึงอยากฝากสื่อมวลชนที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ว่า ท่านต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงต้องหาเครื่องไม้เครื่องมือไว้ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ตำรวจใช้กระสุนยางเกิดจากกลุ่มผู้ชุมนุมก่อความรุนแรงหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า บริเวณแยกคอกวัวมีการใช้รถจักรยานยนต์ พร้อมอาวุธต่างๆ จุดระเบิดเพลิง เผาทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งเป็นอันตราย หากตำรวจไม่ใช้การปฏิบัติแบบฉับพลัน อาจเกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ กรณีที่ไปโดนนักข่าว โอกาสพลาดอาจจะเกิดขึ้นได้ พอเราสั่งเตรียม น้องคงก้มลง อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทาง บช.น. อาจจะมีการพิจารณาจัดฝึกอบรมให้ความรู้กับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับการใช้สัญลักษณ์ของตำรวจ ระหว่างการปฏิบัติของเจ้าหน้าในการชุมนุมด้วย