พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวแห่งชาติ ร่วมกันแถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม ซึ่งมีการปะทะกันกับตำรวจเมื่อวานนี้ (20 มี.ค.)
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำว่า ขณะนี้ยังอยู่ในการประกาศตามพระราชกำหนดฉุกเฉิน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในที่สาธารณะ และการใช้เครื่องกีดขวางเนื่องจากป้องกันความเสียหายต่อสถานที่สำคัญ ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเป็นการใช้ยุทธวิธีตามหลักสากล โดยทุกขั้นตอนมีการประกาศแจ้งเตือนทุกระยะ ซึ่งตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อยับยั้งไว้ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้ชุมนุมและสถานที่สำคัญต่างๆ ในพื้นที่
ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สรุปว่า มีการจับกุมผู้กระทำความผิด 20 ราย ส่งดำเนินคดีข้อหาร่วมกันชุมนุมผิด กม. พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 มั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค สมคบ 10 คนขึ้นไปก่อวุ่นวายในบ้านเมือง มาตรา 215 วรรค 2 ทำร้ายเจ้าหน้าที่และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยมีและใช้อาวุธ มาตรา 138 และ 140 และบางส่วนผิดมาตรา 112 อย่างจงใจ
โดยทั้ง 20 คนยังอยู่ในความควบคุมของตำรวจที่ ตชด.ภาค 1 และมีอีก 5 คน ถูกดำเนินคดีข้อหาเล็กน้อย ลงโทษปรับแล้วปล่อยตัว
ส่วนตำรวจที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่รวมกว่า 50 นาย ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 11 นาย โดย 9 นาย พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจ ในจำนวนนี้ 1 นาย บาดเจ็บสาหัส กะโหลกศีรษะแตก รักษาตัวอยู่ไอซียู และ 2 นายพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุม ได้รับบาดเจ็บ 11 คน
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังระบุถึงภาพการทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่แยกคอกวัว โดยถูกผู้ชุมนุมกลุ่มจรยุทธ์ทำร้ายบาดเจ็บ ว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเกิดจากผู้ชุมนุมเป็นหลัก ตำรวจมีหน้าที่รักษากฎหมาย
ขณะเดียวกัน ฝากนักสืบโซเชียลช่วยตามหาชายสวมเสื้อลายที่ปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่หลายครั้ง อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ดำเนินคดี