MGR Online - อังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชาย พร้อมครอบครัวผู้สูญหายในประเทศไทย เข้าพบอธิบดีดีเอสไอช่วยตามบุคคลสูญหาย หลังคดีไม่คืบหน้า ตัดพ้อรัฐบาลไม่จริงใจ
วันนี้ (12 มี.ค.) เวลา 10.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชาย นีละไพจิตร พร้อมญาติผู้สูญหายในประเทศไทย รวมทั้งนักกิจกรรมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย รวม 20 คน เดินทางยื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีและร่วมรำลึก 17 ปี การหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร และผู้สูญหายคนอื่นๆ
นางอังคณากล่าวว่า ผ่านมาเป็นเวลา 17 ปีแล้ว สำหรับการลักพาตัวทนายสมชาย นีละไพจิตร จนวันนี้รัฐบาลไทยกลับไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ โดยคดีการสูญหายทนายสมชายเป็นของการบังคับสูญหายคดีแรกที่ถูกนำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมจนถึงชั้นฎีกา แม้สุดท้ายศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด ส่วนตัวมองว่าคดีบุคคลสูญหายไม่มีความคืบหน้า แต่ก็ขอบคุณดีเอสไอที่ยืนยันว่าจะยังคงทำคดีอย่างต่อเนื่อง แต่มองว่าหลักสำคัญที่จะบ่งบอกถึงความจริงใจและแก้ไขปัญหาการบังคับบุคคลสูญหาย คือบทบาทของรัฐบาล
นางอังคณากล่าวอีกว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบกรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้สูญหาย แต่ดูเหมือนคณะกรรมการชุดนี้มุ่งเน้นความพยายามในการลบชื่อผู้สูญหายในประเทศไทยออกจากรายชื่อของคณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจขององค์การสหประชาชาติ มากกว่าการเปิดเผยที่อยู่และชะตากรรมของผู้สูญหาย นำคนผิดมาลงโทษ และชดใช้เยียวยาเหยื่อและครอบครัว จึงไม่แปลกใจที่ไม่เคยได้ยิน พล.อ.ประยุทธ์ เอ่ยชื่อผู้สูญหายในประเทศไทย ทั้งนี้ ขอเรียกร้องทางการไทยให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. ... เพื่อสอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศไทย ป้องกันการอุ้มหายอย่างมีมาตรฐานในอนาคต
ด้าน น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยการเมืองที่ถูกอุ้มหายในประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า ขณะนี้นับรวมเป็นระยะเวลากว่า 9 เดือนแล้วที่นายวันเฉลิมหายตัวไป ล่าสุดก็ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีทั้งจากทางการไทยและประเทศกัมพูชา แม้ว่าการสืบสวนคดีในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีในการสืบสวนสอบสวนที่ดี แตกต่างจากเมื่อ 17 ปีก่อน รวมถึงมีพยานหลักฐานต่างๆ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ดำเนินการอะไร ตนเองวางแผนไว้ว่าหากครบกำหนด 1 ปีของการสูญหายจะเดินทางไปยื่นหนังสือให้องค์กรต่างประเทศในทวีปยุโรป เพื่อเรียกร้องให้เรื่องดังกล่าวมีความคืบหน้า
ส่วน พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า ดีเอสไอติดตามคดีคนสูญหายมาโดยตลอดและทุ่มเทการทำงานตั้งแต่ตนเองมารับตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ การสูญหายเป็นระยะเวลานานก็มีผลทำให้พยานหลักฐานสำคัญสูญหายซึ่งก็มีผลต่อคดี แต่อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอก็จะพยายามติดตามและหาหลักฐานประกอบคดีให้ถึงที่สุดเพื่อจะได้กระจ่าง เพราะเป็นห่วงความรู้สึกครอบครัวของผู้สูญเสีย
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว หลังการมอบเอกสารเสร็จสิ้น นักกิจกรรมและครอบครัวผู้สูญเสียได้สวมหน้ากากทนายสมชาย และปล่อยรถตุ๊กตุ๊กจำนวน 17 คัน ที่ติดป้ายตามหาทนายสมชายเพื่อให้วิ่งรณรงค์ในพื้นที่ใกล้เคียง