กลุ่ม REDEM พร้อมภาคีชานม 5 ประเทศ รวมตัวอนุสาวรีย์ชัย บุกบ้าน "บิ๊กตู่" กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ฝ่าแนวกั้นลวดหนาม และตู้คอนเทนเนอร์ก่อนมีการปะทะในช่วงค่ำ มีการใช้แก๊สน้ำตา เสียงปืนดังโดยไม่ทราบฝ่าย
เมื่อเวลา16.00 น.วานนี้ (28ก.พ.) กลุ่ม REDEM หรือกลุ่มม็อบปลดแอก ได้นัดรวมตัวชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมวลชนตั้งขบวนบนแนวฟุตบาธ วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งตรงข้ามเกาะกลางฝั่งพญาไท หันหัวขบวนเตรียมมุ่งหน้าไปยังถนนวิภาวดีรังสิต โดยแกนนำประกาศว่า การชุมนุมครั้งนี้ มีภาคีแห่งชานม 5 ประเทศ คือ ไทย ไต้หวัน ฮ่องกง เมียนมา อินเดีย เข้าร่วมด้วย โดยมวลชนบางส่วน รออยู่ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถ.วิภาวดี-รังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แล้ว
มีรายงานว่า ที่ก่อนทางลงอุโมงค์ดินแดง มุ่งหน้าถนนวิภาวดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ได้นำแผงเหล็กกั้นพร้อมลวดสลิง ปิดกั้นไม่ยอมให้กลุ่มการ์ดผ่านไป พร้อมประกาศเตือนว่า การชุมนุมผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.ควบคุมโรค แต่กลุ่มการ์ดไม่สนใจ ได้ตรงเข้าพังแผงเหล็กกั้น พร้อมผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนต้องล่าถอย ขึ้นรถออกจากบริเวณดังกล่าว
ต่อมาเวลา 17.30 น. มวลชนเคลื่อนขบวนเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต โดยเมื่อถึงจุดตัดวิภาวดีรังสิต - พหลโยธิน 2 ข้างโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่ ตั้งแถวสกัดและปิดถนน ผู้ชุมนุมบางส่วนจึงแวะถ่ายรูปเซลฟี่ ก่อนจะเคลื่อนขบวนต่อไปยังถนนวิภาวดี มุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถ.วิภาวดี-รังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนเคลื่อนขบวนฝ่าแนวสกัดของเจข้าหน้าที่ตำรวจ มาถึงบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถ.วิภาวดี-รังสิต จากนั้น การืดและผู้ชุมนุมบางส่วน ช่วยกันผลักดันตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเจ้าหน้าที่นำมาปิดกั้นไว้ จนเปิดทางได้สำเร็จ ตำรวจควบคุมฝูงชนจึงนำกำลังเข้าปิดช่องโหว่ระหว่างตู้ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่มวลชนเคลื่อนขบวนถึงหน้าปั๊ม ปตท. และได้รื้อแผงรั้วสังกะสี ที่กั้นตู้คอนเทนเนอร์ออก และมีการนำสีสาดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตั้งแนวป้องกันหลังตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมทั้งมีการแจกถุงมือสำหรับรื้อรั้วลวดหนาม และมีการประกาศกันในหมู่ผู้ชุมนุมว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายกองร้อย กำลังมุ่งหน้ามายังจุดชุมนุม จึงส่งผลให้ผู้ชุมนุมวิ่งไปยังจุดที่ตำรวจเคลื่อนเข้ามา และมีการขว้างปาสิ่งของใส่กัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตั้งแถวดาหน้าเข้าสกัด ทำให้ผู้ชุมนุมต้องถอยร่นกลับมายังบริเวณหน้าปั๊ม ปตท.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ประกาศต่อผู้ชุมนุม อย่าขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ที่มาดูแลเรียบร้อย และขอให้แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ผู้ชุมนุมกลับดาทอเจ้าหน้าที่ และให้นำรถจีโน่ หรือรถฉีดน้ำออกไป ขณะเดียวกันตัวแทนผู้ชุมนุมคนหนึ่ง ได้ขึ้นรถติดเครื่องขยายเสียงของกองบัญชาการตำรวจนครบาล แจ้งกับมวลชนว่า เราเพียงขอให้เจ้าหน้าที่เปิดทาง เพื่อให้เราเคลื่อนขบวนไปถึงจุดหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอยรถ จีโน่ 1 คัน ออกไปจากจุดจอดหน้าปั๊ม ปตท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการชุมนุมมีการอ้างว่า ผู้ชุมนุม 1 คน ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไป แต่ต่อมาปรากฏว่าเป็นผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ และเจ้าหน้าที่ได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะประสานรถพยาบาลออกนอกพื้นที่ไป
ส่วนที่บริเวณซอยพหลโยธิน 2 จุดเชื่อมมายังถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้กับ รพ.ทหารผ่านศึก เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนตั้งแนวสกัด ได้พยายามกระชับพื้นที่จากถนนวิภาวดีเข้ามา ทำให้เกิดการปะทะกับการ์ดแนวร่วมผู้ชุมนุม เป็นระยะๆ มีการใช้แก๊สน้ำตา ทำให้แนวร่วมที่อยู่หลังแนวปะทะ ประกาศผ่านรถขยายเสียงบ่อยครั้ง ขอให้มวลชนที่มีน้ำเปล่า น้ำเกลือ ไปให้การ์ดที่อยู่ด่านหน้า ที่ รพ.ทหารผ่านศึก
ขณะเดียวกันตำรวจควบคุมฝูงชนออกมาตั้งแถวบนถนนวิภาวดี ก่อนเคลื่อนกำลังกดดันผู้ชุมนุมขึ้นไปยังกรมทหารราบที่ 1 พร้อมประกาศให้จับกุมผู้ชุมนุมที่มีอาวุธได้ทันที อย่างไรก็ตาม การ์ดประกาศว่าให้ผู้ชุมนุมรีบเดินไปทางแยกสุทธิสาร เนื่องจากรถน้ำกำลังมาข้างหลัง
ม็อบไร้แกนนำชุลมุน มีเสียงปืนดัง
ต่อมาเยาวชนชาย ตัวแทนผู้ชุมนุม เจรจาให้เจ้าหน้าที่เปิดทางเพื่อไปจุดหมาย พร้อมกล่าวว่า ขอให้ผู้ชุมนุมสงบ อย่าฝ่าแนวออกไป อย่าให้มีการปะทะ จากนั้นรถฉีดน้ำถอยกลับไปยังแยกสุทธิสาร
ทั้งนี้ มีรายงานว่า บริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ถนนวิภาวดีรังสิต หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้น และประสานรถพยาบาลนำตัวผู้บาดเจ็บไป รพ.ราชวิถี สถานการณ์เริ่มเป็นปกติ โดยมีบางส่วนไปสมทบที่จุดพหลโยธิน 2 ที่มีการปะทะกัน
ต่อมาเวลา 19.30 น. ที่จุดตัดพหลโยธิน 2 การ์ดกลุ่มปลดแอก อ้างว่า ผู้ชุมนุมด้าน รพ.ทหารผ่านศึก ถูกกระสุน ไม่แน่ใจว่ากระสุนยาง หรือกระสุนจริง ยิงมายังบริเวณการชุมนุม ต่อมาที่ ซอยพหลโยธิน 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ประกาศผ่านรถขยายเสียง ขอให้ผู้ชุมนุมเปิดรั้วกั้น เจ้าหน้าที่จะเดินเข้าที่ตั้ง จะไม่มีการปะทะกัน ทำให้มวลชนที่เป็นการ์ดขวางสกัดกั้นไม่ยอมให้ผ่าน จากนั้นตำรวจได้ออกคำสั่งอีกครั้ง ให้เปิดแนวรั้วด้านซ้าย มีการยื้อกระชากชั่วครู่ แต่ก็สามารถผ่านมาได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่มาถึงหน้า รพ.ทหารผ่านศึก มาหยุดอยู่สักพัก ท่ามกลางเสียงดังคล้ายกระสุนปืนโดยไม่ทราบฝ่าย เป็นพักๆ ทำให้มวลชนแตกฮือ กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง บางส่วนวิ่งข้ามถนนมายังวิภาวดีขาเข้า มาหลบที่เกาะกลางถนน โดยที่ยังมีเสียงดันคล้ายปืนอยู่ต่อเนื่อง ทำให้มวลชนที่แตกกระจัดกระเจิง ต้องคอยตะโกนหมอบๆ ขณะได้ยินเสียงดังคล้ายปืนในการกระชับพื้นที่ ทำให้แนวร่วมราษฎรบางคนได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "แนวโน้มคงปะทะอีกรอบ ผมเอาไม่อยู่แล้ว แกนนำก็ไม่มีเลยไม่รู้ใครเป็นใคร"
นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีต อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ มงธรรมศาสตร์ ผู้ลี้ภัยการเมืองในฝรั่งเศส ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "การจัดชุมนุมโดย "ไม่มีแกนนำ" ไม่ใช่ไอเดียที่ดี ผมคิดว่าควรเลิกชุมนุม กลับบ้าน แล้วค่อยว่ากันใหม่ดีกว่า"
เมื่อเวลา16.00 น.วานนี้ (28ก.พ.) กลุ่ม REDEM หรือกลุ่มม็อบปลดแอก ได้นัดรวมตัวชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมวลชนตั้งขบวนบนแนวฟุตบาธ วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งตรงข้ามเกาะกลางฝั่งพญาไท หันหัวขบวนเตรียมมุ่งหน้าไปยังถนนวิภาวดีรังสิต โดยแกนนำประกาศว่า การชุมนุมครั้งนี้ มีภาคีแห่งชานม 5 ประเทศ คือ ไทย ไต้หวัน ฮ่องกง เมียนมา อินเดีย เข้าร่วมด้วย โดยมวลชนบางส่วน รออยู่ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถ.วิภาวดี-รังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แล้ว
มีรายงานว่า ที่ก่อนทางลงอุโมงค์ดินแดง มุ่งหน้าถนนวิภาวดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ได้นำแผงเหล็กกั้นพร้อมลวดสลิง ปิดกั้นไม่ยอมให้กลุ่มการ์ดผ่านไป พร้อมประกาศเตือนว่า การชุมนุมผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.ควบคุมโรค แต่กลุ่มการ์ดไม่สนใจ ได้ตรงเข้าพังแผงเหล็กกั้น พร้อมผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนต้องล่าถอย ขึ้นรถออกจากบริเวณดังกล่าว
ต่อมาเวลา 17.30 น. มวลชนเคลื่อนขบวนเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต โดยเมื่อถึงจุดตัดวิภาวดีรังสิต - พหลโยธิน 2 ข้างโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่ ตั้งแถวสกัดและปิดถนน ผู้ชุมนุมบางส่วนจึงแวะถ่ายรูปเซลฟี่ ก่อนจะเคลื่อนขบวนต่อไปยังถนนวิภาวดี มุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถ.วิภาวดี-รังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนเคลื่อนขบวนฝ่าแนวสกัดของเจข้าหน้าที่ตำรวจ มาถึงบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถ.วิภาวดี-รังสิต จากนั้น การืดและผู้ชุมนุมบางส่วน ช่วยกันผลักดันตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเจ้าหน้าที่นำมาปิดกั้นไว้ จนเปิดทางได้สำเร็จ ตำรวจควบคุมฝูงชนจึงนำกำลังเข้าปิดช่องโหว่ระหว่างตู้ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่มวลชนเคลื่อนขบวนถึงหน้าปั๊ม ปตท. และได้รื้อแผงรั้วสังกะสี ที่กั้นตู้คอนเทนเนอร์ออก และมีการนำสีสาดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตั้งแนวป้องกันหลังตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมทั้งมีการแจกถุงมือสำหรับรื้อรั้วลวดหนาม และมีการประกาศกันในหมู่ผู้ชุมนุมว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายกองร้อย กำลังมุ่งหน้ามายังจุดชุมนุม จึงส่งผลให้ผู้ชุมนุมวิ่งไปยังจุดที่ตำรวจเคลื่อนเข้ามา และมีการขว้างปาสิ่งของใส่กัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตั้งแถวดาหน้าเข้าสกัด ทำให้ผู้ชุมนุมต้องถอยร่นกลับมายังบริเวณหน้าปั๊ม ปตท.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ประกาศต่อผู้ชุมนุม อย่าขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ที่มาดูแลเรียบร้อย และขอให้แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ผู้ชุมนุมกลับดาทอเจ้าหน้าที่ และให้นำรถจีโน่ หรือรถฉีดน้ำออกไป ขณะเดียวกันตัวแทนผู้ชุมนุมคนหนึ่ง ได้ขึ้นรถติดเครื่องขยายเสียงของกองบัญชาการตำรวจนครบาล แจ้งกับมวลชนว่า เราเพียงขอให้เจ้าหน้าที่เปิดทาง เพื่อให้เราเคลื่อนขบวนไปถึงจุดหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอยรถ จีโน่ 1 คัน ออกไปจากจุดจอดหน้าปั๊ม ปตท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการชุมนุมมีการอ้างว่า ผู้ชุมนุม 1 คน ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไป แต่ต่อมาปรากฏว่าเป็นผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ และเจ้าหน้าที่ได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะประสานรถพยาบาลออกนอกพื้นที่ไป
ส่วนที่บริเวณซอยพหลโยธิน 2 จุดเชื่อมมายังถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้กับ รพ.ทหารผ่านศึก เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนตั้งแนวสกัด ได้พยายามกระชับพื้นที่จากถนนวิภาวดีเข้ามา ทำให้เกิดการปะทะกับการ์ดแนวร่วมผู้ชุมนุม เป็นระยะๆ มีการใช้แก๊สน้ำตา ทำให้แนวร่วมที่อยู่หลังแนวปะทะ ประกาศผ่านรถขยายเสียงบ่อยครั้ง ขอให้มวลชนที่มีน้ำเปล่า น้ำเกลือ ไปให้การ์ดที่อยู่ด่านหน้า ที่ รพ.ทหารผ่านศึก
ขณะเดียวกันตำรวจควบคุมฝูงชนออกมาตั้งแถวบนถนนวิภาวดี ก่อนเคลื่อนกำลังกดดันผู้ชุมนุมขึ้นไปยังกรมทหารราบที่ 1 พร้อมประกาศให้จับกุมผู้ชุมนุมที่มีอาวุธได้ทันที อย่างไรก็ตาม การ์ดประกาศว่าให้ผู้ชุมนุมรีบเดินไปทางแยกสุทธิสาร เนื่องจากรถน้ำกำลังมาข้างหลัง
ม็อบไร้แกนนำชุลมุน มีเสียงปืนดัง
ต่อมาเยาวชนชาย ตัวแทนผู้ชุมนุม เจรจาให้เจ้าหน้าที่เปิดทางเพื่อไปจุดหมาย พร้อมกล่าวว่า ขอให้ผู้ชุมนุมสงบ อย่าฝ่าแนวออกไป อย่าให้มีการปะทะ จากนั้นรถฉีดน้ำถอยกลับไปยังแยกสุทธิสาร
ทั้งนี้ มีรายงานว่า บริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ถนนวิภาวดีรังสิต หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้น และประสานรถพยาบาลนำตัวผู้บาดเจ็บไป รพ.ราชวิถี สถานการณ์เริ่มเป็นปกติ โดยมีบางส่วนไปสมทบที่จุดพหลโยธิน 2 ที่มีการปะทะกัน
ต่อมาเวลา 19.30 น. ที่จุดตัดพหลโยธิน 2 การ์ดกลุ่มปลดแอก อ้างว่า ผู้ชุมนุมด้าน รพ.ทหารผ่านศึก ถูกกระสุน ไม่แน่ใจว่ากระสุนยาง หรือกระสุนจริง ยิงมายังบริเวณการชุมนุม ต่อมาที่ ซอยพหลโยธิน 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ประกาศผ่านรถขยายเสียง ขอให้ผู้ชุมนุมเปิดรั้วกั้น เจ้าหน้าที่จะเดินเข้าที่ตั้ง จะไม่มีการปะทะกัน ทำให้มวลชนที่เป็นการ์ดขวางสกัดกั้นไม่ยอมให้ผ่าน จากนั้นตำรวจได้ออกคำสั่งอีกครั้ง ให้เปิดแนวรั้วด้านซ้าย มีการยื้อกระชากชั่วครู่ แต่ก็สามารถผ่านมาได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่มาถึงหน้า รพ.ทหารผ่านศึก มาหยุดอยู่สักพัก ท่ามกลางเสียงดังคล้ายกระสุนปืนโดยไม่ทราบฝ่าย เป็นพักๆ ทำให้มวลชนแตกฮือ กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง บางส่วนวิ่งข้ามถนนมายังวิภาวดีขาเข้า มาหลบที่เกาะกลางถนน โดยที่ยังมีเสียงดันคล้ายปืนอยู่ต่อเนื่อง ทำให้มวลชนที่แตกกระจัดกระเจิง ต้องคอยตะโกนหมอบๆ ขณะได้ยินเสียงดังคล้ายปืนในการกระชับพื้นที่ ทำให้แนวร่วมราษฎรบางคนได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "แนวโน้มคงปะทะอีกรอบ ผมเอาไม่อยู่แล้ว แกนนำก็ไม่มีเลยไม่รู้ใครเป็นใคร"
นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีต อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ มงธรรมศาสตร์ ผู้ลี้ภัยการเมืองในฝรั่งเศส ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "การจัดชุมนุมโดย "ไม่มีแกนนำ" ไม่ใช่ไอเดียที่ดี ผมคิดว่าควรเลิกชุมนุม กลับบ้าน แล้วค่อยว่ากันใหม่ดีกว่า"