ตำรวจนำหมายศาลบุกค้นบ้านพักหรูที่เกิดเหตุย่านพหลโยธิน กรณีพริตตี้วาวาเสียชีวิตปริศนา หลังรับงานเอน เผยข้อความแชตไลน์ระหว่างผู้ตายกับโมเดลลิ่ง
จากกรณี น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือ วาวา พริตตี้สาว ที่เสียชีวิตจากระบบไหลเวียนโลหิตและทางเดินหายใจล้มเหลว ใน รพ.เปาโลเกษตร ช่วงเช้าวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายหลังรับงานเอนเตอร์เทนจาก น.ส.สุ โมเดลลิ่ง ให้ไปดูแลนายเก่ง ที่บ้านพักหรูย่านพหลโยธิน ก่อนที่ครอบครัวผู้ตายจะร้องเรียนไปยังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้ช่วยเหลือทางคดี เนื่องจากเกรงจะมีความซับซ้อนเหมือนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือพริตตี้สาวลันลาเบล เมื่อปี 2562
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ต.เชษฐพัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ สว.สส.สน.พหลโยธิน และฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน พร้อมเจ้าหน้าที่กองกำกับการสุนัขและม้าตำรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 49/2564 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 402/12 เสนานิคม 1 ซอย 12 แยก 2 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ลักษณะเป็นทาวน์โฮม 4 ชั้น กำแพงสูงราว 2 เมตรครึ่ง รั้วรอบขอบชิด ติดกล้องวงจรปิดรอบทุกมุมบ้าน ภายในมีรถเบนซ์หรู 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รอให้เจ้าของบ้านออกมานำตรวจค้นเป็นเวลา 20 นาที แต่ไม่มีผู้ใดอยู่ในบ้าน จึงไม่สามารถตรวจค้นได้
มีรายงานเปิดเผยแชตการสนทนาระหว่าง น.ส.วิชญาพร ผู้ตาย กับโมเดลลิ่งที่ว่าจ้างให้ไปรับงาน โดยมีข้อความจากฝั่งผู้ตายระบุว่า “ขอเด็กวีไอพี 1 คน เขาไปอาบน้ำกัน บางคนยังไม่มา แต่เหมือนจะมาอีก เค้าแจกขนมกินไปครึ่งหนึ่ง” และมีหลักฐานสลิปการโอนเงินจำนวน 30,000 บาท จากผู้ว่าจ้างไปให้โมเดิลลิ่งเป็นค่าเด็กเอน 4 คน รวมถึงผู้ตาย ตกคนละ 7,500 บาท ซึ่งยังมีการว่าจ้างเด็กเอน 6 คน จากอีกโมเดลลิ่ง
มีรายงานข่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) ตำรวจได้เรียกสอบปากคำพยานไปแล้ว 6 คน ประกอบด้วย พริตตี้ 3 คน โมเดิลลิ่ง 1 คน และญาติผู้ตาย 2 คน ซึ่งมีพยานระบุว่า ในงานปาร์ตี้เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ชาย 5-7 คน ผู้หญิงราว 10 คน ทั้งหมดได้นั่งกินข้าวร่วมกันที่ชั้นล่างของบ้าน จนถึงเวลาเที่ยงคืนวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนจะขึ้นไปปาร์ตี้บนชั้นสอง และมีการเสพยาเสพติด ทั้งนี้ ตำรวจยังต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์มายืนยันอีกครั้งว่ามีสารแปลกปลอมใดในตัวผู้ตายหรือไม่