MGR Online - “ทนายอนันต์ชัย” พร้อมตัวแทน 7 องค์กรคนพิการ ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.สอบถามความชัดเจนคดีถูก“ปารีณา” แจ้งความหมิ่นประมาทฯ ตกลงตำรวจหน่วยใดเป็นผู้รับผิดชอบ เรียกร้องหยุดเอาความพิการมาพูดล้อเล่นสนุกปาก
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ จันทยานนท์ นายกสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม และตัวแทนจาก 7 องค์การคนพิการ นำเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมนำรายชื่อประชาชนที่แสดงความคิดเห็นทางโชเชียลมีเดีย และผู้มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย รวม 3,106 รายชื่อ ยื่นขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แจ้งความดำเนินคดีต่อนายอนันต์ชัย ไชยเดช, น.ส.อรัชภร โภคินภากร, น.ส.เพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์ และนายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ที่ สภ.โพธาราม หลังได้โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์ น.ส.ปารีณา ที่โพสต์ต่อว่าดาราสาว ก้อย อรัชพร ว่าเป็น “ดาราหน้าแบ๊วหรือออทิสติกกันแน่” ต่อมากลุ่มตัวแทนผู้พิการ และออทิสติก แสดงความไม่พอใจต่อการแสดงความคิดเห็น ทำให้ น.ส.ปารีณาเข้าแจ้งความ แต่เมื่อต้องการนำเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงไปมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม ทางพนักงานสอบสวนกลับแจ้งว่าคดีดังกล่าวถูกโอนให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.ไปแล้ว และไม่มีอำนาจสอบสวน จึงไม่ทราบว่าตกลงตำรวจหน่วยใดเป็นผู้รับผิดชอบคดี
นายอนันต์ชัยกล่าวว่า เหตุผลที่ตนต้องทำหนังสือถึง ผบ.ตร.เนื่องจากมีปัญหาข้อกฏหมายและต้องการความชัดเจนว่า คดีหมิ่นประมาททางโซเชียลมีเดียตกลงแล้วตำรวจไซเบอร์ หรือตำรวจท้องที่ เป็นผู้รับผิดชอบคดี เพราะคดีนี้พนักงานสอบสวนแจ้งว่าไม่อยู่ที่ สภ.โพธารามแล้ว ทำให้ตนเองสับสนไม่สามารถส่งพยานหลักฐานพร้อมรายชื่อประชาชนที่ลงชื่อคัดค้านกรณี น.ส.ปารีณา บูลลี่ออทิสติก เพื่อใช้ในการสอบสวนได้ ทั้งที่หลักฐานดังกล่าวหากมีการสอบสวนและไม่พบความผิดตนเองและพวกก็ไม่ต้องตกเป็นผู้ต้องหา วันนี้จึงนำหลักฐานต่างกล่าวมามอบให้ ผบ.ตร.เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบต่อไป
นายอนันต์ชัยกล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวได้มีการยื่นหลายหน่วยงาน อาทิ รัฐสภา เพื่อสอบจริยธรรม ส.ส.ปารีณาด้วย นอกจากนี้ ขอท้าให้ ส.ส.ปารีณา ดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกเงิน 1 ล้านตามที่เคยพูดไว้ได้เลยเพราะตนเองก็พร้อมต่อสู้จนถึงที่สุดเช่นกัน
ด้านนายชูศักดิ์กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ผู้ที่ชอบเอาความพิการของผู้อื่นมาล้อเล่น พูดสนุกปาก หรือเปรียบเทียบขอให้เลิก และหยุดกระทำการกับเรื่องอย่างนี้ เพราะผู้พิการหรือออทิสซึมก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน หากได้ยินจะรู้สึกอย่างไร และผู้พิการเหล่าก็ไม่ได้สร้างความเสียหายให้สังคมจึงไม่ควรถูกเลือกปฏิบัติหรือแบ่งแยก โดยเฉพาะผู้ที่พูดเป็นถึง ส.ส. ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนได้ ไม่ใช่ไม่พอใจก็จะดำเนินคดีผู้อื่น