ราชบุรี- ทนายอนันต์ชัยลั่น “ส.ส.ปารีณา” มายุ่งกับตนนรกมีจริง จากกรณีที่ออกมาบูลลี่ผู้พิการออทิสติก ยังไม่มีความสำนึกในการกระทำ เผยพรุ่งนี้มีบิ๊กเซอร์ไพรส์จนรัฐบาลต้องเต้น
วันนี้ (16 ก.พ.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง พร้อมด้วย นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ นายกสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม และตัวแทนจาก 7 องค์การคนพิการ ได้แก่ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ฝ่ายกฎหมายและสิทธิเสรีภาพมนุษยชน สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย และมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ซึ่งมีสมาชิกรวมกันกว่า 3 ล้านคน ได้เดินทางมาที่ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ทั้งนี้ เพื่อยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.โพธาราม หลัง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ นายอนันต์ชัย ไชยเดช น.ส.อรัชภร โภคินภากร น.ส.เพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์ และนายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เมื่อวันที่ 9-11 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อขอทราบข้อความและความคืบหน้าของคดีสำหรับใช้สิทธิทางศาลต่อไป
พ.ต.อ.สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.โพธาราม เปิดเผยว่า หลังจาก น.ส.ปารีณา ได้เข้าแจ้งความเอาผิดต่อกลุ่มบุคคลทั้งหมดในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่เนื่องจากเป็นพยานหลักฐานทางเทคโนโลยี ซึ่งทาง สภ.โพธาราม ไม่มีอุปกรณ์และความชำนาญเพียงพอ จึงได้ส่งสำนวนเสนอไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี จากนั้นได้มีคำสั่งให้ส่งต่อสำนวนไปยังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นตามลำดับขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว
ด้าน นายอนันต์ชัย กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว น.ส.ปารีณา ซึ่งมีฐานะไม่ใช่แค่ตัวแทนของแค่ชาว อ.โพธาราม แต่เป็นถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคนทั้งประเทศ มีหน้าที่ต้องดูแล และบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน กลับมีพฤติกรรมดูหมิ่น โดยใช้การเปรียบเทียบกับผู้พิการออทิสติก และยังไม่มีความสำนึกในการกระทำ เดินหน้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนฟ้องหมิ่นประมาทตนและพวก ในวันนี้พวกตนจึงเดินทางมาขอทราบข้อกล่าวหา และความคืบหน้าของคดีตามสิทธิ
ทั้งนี้ เพื่อดูว่าเข้าองค์ประกอบของการกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าไม่เข้าข่าย ทางตนและกลุ่มผู้พิการจะดำเนินคดีกลับด้วยการส่งฟ้องศาลเลย ไม่ต้องมารบกวนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการทางกฎหมายอีก เพราะไม่ต้องการสร้างภาระให้แก่ตำรวจ หรือหากทาง น.ส.ปารีณา เข้ามาแจ้งไว้เฉยๆ โดยไม่ได้คิดเอาความผิด ตนและกลุ่มผู้พิการก็จะแจ้งความดำเนินคดีเช่นกัน เพราะต้องการทำให้ไม่เป็นเยี่ยงอย่าง ตนขอบอกเลยว่า “มายุ่งกับผม นรกมีจริง”
นอกจากนั้น ในวันพรุ่งนี้ตนและกลุ่มผู้พิการ จะเดินทางไปยื่นขอทราบความคืบหน้าทางคดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นจะนำรายชื่อของประชาชนจำนวน 3,106 รายชื่อ ไปยื่นเรื่องต่อคณะอนุกรรมการการจัดการเลือกปฏิบัติ รวมไปถึงคณะอนุกรรมาธิการเด็กสตรี และผู้พิการ กรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ
ที่สำคัญเป็น “บิ๊กเซอร์ไพรส์” คือ จะไปยื่นเรื่องยังองค์กรหนึ่งในระดับสูง ถึงขั้นรัฐบาลต้องเต้น เพื่อเอาผิดกับ น.ส.ปารีณา แต่จะขอใบ้ให้ดูที่รถตู้ที่ตนและกลุ่มผู้พิการนั่งมาว่า “รถใครมา” ทั้งนี้ หาก น.ส.ปารีณา ออกมาขอโทษในตอนนี้คงต้องถามกับกลุ่มผู้พิการทั้ง 7 องค์การว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไรต่อไป