MGR Online - ปลัด ยธ. ระบุ พระราชดำริ รัชกาลที่ ๑๐ ทรงให้ รพ.ราชทัณฑ์ รักษาผู้ต้องขังตามหลักสากล พระราชทานทรัพย์สินพระองค์ช่วยเหลือทั้งอุปกรณ์-บุคลากร
วันนี้ (27 ม.ค.) เวลา 14.00 น. กระทรวงยุติธรรมตึกใหม่ ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หลังจากมีการตั้งคำถามหลายประการเกี่ยวกับการดำเนินงานตาม “โครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ” จนทำให้สังคมเกิดความสับสน และอาจนำไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของประชาชนได้
นายวิศิษฏ์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโครงการ “ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ต้องให้บริการแก่ผู้ต้องขัง ในกรณีเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นจำนวนมาก ยังขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ การดูแลสุขภาพของผู้ต้องขังถือเป็นหน้าที่สำคัญของกรมราชทัณฑ์ ในการที่จะให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรม
“ทั้งนี้ เมื่อพ้นโทษจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ ออกมาสู่สังคมภายนอก และประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ โดยจะพระราชทานความช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนการให้จิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ได้เข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือทั้งด้านการแพทย์ การพยาบาล การอบรมให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ”
นายวิศิษฏ์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องขังที่กรมราชทัณฑ์ต้องดูแลในปัจจุบันมีจำนวนมาก ประกอบกับข้อจำกัดด้านงบประมาณ บุคลากร เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ที่ไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้ต้องขังที่แออัด ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดูแลสุขภาพอนามัยทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ต้องขังและส่งผลต่อประชาชนภายนอกด้วย โครงการ “ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” จึงเป็นโครงการที่ทรงพระราชทานความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทั้งนี้ ได้ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ไว้ใช้ทั้งในเรือนจำและโรงพยาบาลภายนอก ซึ่งได้พระราชทานมาตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 190,072,863 บาท และในปี 2564 จำนวน 118,547,200 บาท ซึ่งครุภัณฑ์ที่โรงพยาบาลภายนอกได้รับจะเป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วไปด้วย
นายวิศิษฏ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงยุติธรรมขอเรียนว่าการดำเนินการตามโครงการพระราชทานนี้ สอดคล้องตามหลักสากล หลักสิทธิมนุษยชน หลักมนุษยธรรม และมาตรฐานขั้นต่ำขององค์การสหประชาชาติในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็นปฏิญญากรุงเทพ และข้อกำหนดแมนเดลา และไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด