“ถอนหมุดข่าว”
กลายเป็นข่าวโด่งดังชวนสยอง กับการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสอย่างปริศนาของวัยรุ่นหญิงชาย โดยทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับการเสพยา “เคนมผง”
ยืนยันแล้วว่า เฉพาะผู้เสียชีวิตจาก “เคนมผง” ในพื้นที่ กทม.มีทั้งหมด 6 ราย และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น หากยังไม่สามารถระงับยับยั้งการใช้ยาเสพติด “สูตรมรณะ” ตัวนี้ได้
มีข้อมูลว่า ยาเสพติด “เคนมผง” เริ่มแพร่หลายมาระยะหนึ่ง และระบาดอย่างหนักเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มีการจับกุมได้ครั้งแรกที่ “เขตสายไหม” กทม. และ ณ เวลานี้ยังถือเป็นพื้นที่ที่แพร่ระบาดมากที่สุด
เช่นเดียวกับหลายชุมชนในเขตบางคอแหลม โดยพบว่า ต้นตอของ “เคนมผง” มาจากชุมชนในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
สาเหตุที่เริ่มมีการเสพกันแพร่หลาย เนื่องจาก “เคตามีน” ที่ขาดตลาด และถูกโก่งราคาขึ้นสูงมาก จึงมีการคิดค้น “เคนมผง” มีราคาย่อมเยากว่า พ่วงด้วยสรรพคุณที่ว่า “หลอนกว่า-นานกว่า” มาตีตลาด เรียกว่าถูกใจนักเสพวัยโจ๋ยิ่งนัก
แม้ขณะนี้ฝ่ายนิติวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบส่วนผสมของ “เคนมผง” โดยละเอียด
แต่เบื้องต้นก็พบว่า “เคนมผง” เป็นยาเสพติด “ค็อกเทล” ผสมขึ้นมาใหม่ มีส่วนผสมหลัก 4 ชนิด
คือ 1. “เคตามีน” หรือ “ยาเค” ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักเสพ, 2. “ไอซ์” ยาเสพติดยอดฮิตในยุคปัจจุบัน, 3. “เฮโรอีน” ยาเสพติดโลกเก่าที่ถูกยกให้เป็น “ราชายาเสพติด” ซึ่งห่างหายจากการพูดถึงมานาน และ 4. “โรเช่” ยานอนหลับที่ออกฤทธิ์สูงกว่ายานอนหลับทั่วไปถึง 10 เท่า
โดยนำส่วนผสมทั้ง 4 มาบดละเอียดรวมกัน จนลักษณะคล้าย “นมผง” อันเป็นที่มาของชื่อ “เคนมผง”
ส่วนผสมทั้ง 4 ชนิด ถือว่ามีฤทธิ์ที่แตกต่างและใกล้เคียงกัน โดย “ยาเค” มีฤทธิ์ทำให้อยู่ในภวังค์ ผลข้างเคียงทำให้ความดันโลหิตสูง เสพมากๆจะกดการหายใจ
“ไอซ์” ที่มีส่วนผสมของแอมเฟตามีน ออกฤทธิ์เหมือนยาบ้า กดประสาท มีอาการหลอน โดยเฉพาะเมื่อขาดอากาศหายใจ ขณะที่ “ผงขาว” หรือเฮโรอีน ออกฤทธิ์กดประสาท และเกิดอาการหลอนเช่นกัน ส่วน “โรเซ่” ถูกใช้เป็นกดประสาทให้หลับก่อนการประหารชีวิตนักโทษประหาร
เมื่อทั้งหมดมาเสริมฤทธิ์กันก็อาจทำให้ขาดอากาศหายใจและสลบ หรือหนักกว่านั้นก็ไม่สามารถหายใจได้ จนเสียชีวิตในที่สุด
ที่น่ากลัวก็เพราะ “เคนมผง” ไม่ใช่เรื่องพิเรนทร์ที่วัยรุ่นนักเสพผสมและเสพ แต่มีการทำกันเป็น “ขบวนการใหญ่” เพื่อหวังลดต้นทุน และจำหน่ายให้ลูกค้าได้ง่ายขึ้น เจาะทั้งลูกค้าตลางกลางและตลาดล่าง ทั้งราคาถูกและได้ปริมาณมากขึ้น
คล้ายกับกรณียาเสพติด “4 คูณ 100” ที่เคยแพร่ระบาดอย่างหนัก ก็เป็นการผสม “ค็อกเทล” เพื่อให้ออกฤทธิ์มากขึ้น แต่ต้นทุนถูกลง โดยนำน้ำกระท่อมผสมกับยาแก้ไอ และเครื่องดื่มน้ำดำในท้องตลาดที่ทำสกัดจากใบโคคา บางสูตรยังมีการต้มผสม “ยากันยุง” ลงไปด้วย
ย้อนไปเมื่อ 16 ธ.ค. 63 มีการจับกุมขบวนการยาเสพติดครั้งใหญ่ นำโดย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ที่นำทีมเข้าตรวจค้นโกดังย่าน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี สามารถยึดของกลางเป็นเคตามีน 300 กิโลกรัม และเฮโรอีนอีกถึง 228 กิโลกรัม
ครั้งนั้นเชื่อว่าจะมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ เนื่องจาก “ราชายาเสพติด” อย่างเฮโรอีนไม่เป็นที่นิยมในไทย เพราะมีราคาแพงมาก ครั้งหนึ่งราคาเคยพุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 1 ล้านบาท
แต่เมื่อมีผู้ตายจาก “เคนมผง” ก็พออนุมานได้ว่า เหตุที่ “ผงขาว” กลับมาสู่วงจรยานรกอีกครั้งก็เพราะนำมาผสมสูตรมรณะเป็น “เคนมผง” จำหน่ายในประเทศด้วย
มีข้อมูลจากผู้เคยลองเสพว่า อาการของผู้เสพ “เคนมผง” ที่ใช้วิธีการสูดดมเข้าจมูก รุนแรงกว่าเคตามีนปกติอีกด้วย โดยจะเกิดอาการหลอน ขาดสติ ตาขวาง พร้อมจะหาเรื่องอย่างเดียว และขณะที่เคตามีนปกติไม่กี่ชั่วโมงก็คลายฤทธิ์ แต่ “เคนมผง” ออกฤทธิ์นานถึง 3-4 วัน
เป็นความน่ากลัวของ “เคนมผง” ยาเสพติดสูตรมรณะ ที่หากยังไม่สามารถทลายต้นตอเครือข่ายยานรกชนิดนี้ได้ อาจต้องสังเวยชีวิตกันอีก เป็นสิบเป็นร้อยในไม่ช้า
