MGR Online - ตำรวจชุดสืบสวนโคกคราม จับหนุ่ม รปภ.ร่วมมือกับพวก ขโมยรถปอร์เช่ของลูกค้า หลังนำมาซ่อมในอู่ไปขายต่อในราคาถูก
วันนี้ (12 ม.ค.) ที่ สน.โคกคราม พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น.รรท.ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รอง ผบก น.2 พ.ต.อ.ศรีสันต์ เฟื่องสังข์ ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.สยมภู กุลจิตติสิโรดม รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม และ พ.ต.ท.คมไพร ทองลาด สว.สส.สน.โคกคราม ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม แถลงการจับกุม นายนภดล วิเวก อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ รุ่น PANAMERA สีดำ ทะเบียน งบ 5577 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C230 CG สีเทา ทะเบียน ญผ 9914 กรุงเทพมหานคร และ รถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซ-เดส เบนซ์ รุ่น E300 สีดำ ทะเบียน 4กฮ 7337 กรุงเทพมหานคร จับกุมได้หน้าห้องพักเลขที่ 5/268 ชั้น 9 อาคารนิรันดร์เรสซิเดนซ์ 7 ตึก ซี เลขที่ 86 รามคำแหง 2 ซอย 23 แยก 5 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวว่า ภายหลังเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา บมจ.ไดมอนด์ ออโต้ เซอร์วิส คาร์ แจ้งความตำรวจ สน.โคกคราม ว่า รถยนต์ ยี่ห้อ ปอร์เช่ รุ่น PANAMERA ซึ่งลูกค้าได้นำมาซ่อมที่บริษัทถูกลักไป ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม จึงสืบสวนจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายนภดล เป็น รปภ. ของบริษัทดังกล่าว กับพวก รวม 4 คน ได้โพสต์ขายรถยนต์คันดังกล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊ก “สปอย รับจอด” มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในกลุ่ม รถหลุดจำนำ เมื่อวันที่ 8 มกราคม หลังเกิดเหตุ และมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “แม่ค้าปากหมา ใจดี” ถ่ายรูปคู่กับรถยนต์คันดังกล่าว คือ น.ส.ภัสสรา พลีงาม อายุ 37 ปี อยู่ที่ จ.สมุทรสาคร ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจสอบยังบ้านพักของ น.ส.ภัสสร พบรถเบนซ์จอดอยู่ภายในบ้าน 2 คัน จึงยึดไว้ตรวจสอบ
น.ส.ภัสสร ให้การว่า ตนเป็นผู้ซื้อรถยนต์ปอร์เช่คันดังกล่าวมาในราคา 600,000 บาท เพื่อขายต่อให้กับลูกค้าอีกคนหนึ่งที่ จ.นครนายก ในราคา 700,000 บาท ซึ่งได้เปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นป้ายแดง เพื่อไม่ให้เจ้าของรถจดจำได้ และรถคันนี้จอดอยู่ที่บ้านของลูกค้าที่ จ.นครนายก จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวได้ที่บ้านเลขที่ 199/95 หมู่บ้านปาริกา กรีนวิลล์ ต.บ้านใหญ่ อ.เมือง จ.นครนายก
น.ส.ปิยะธิดา อุปริวงศ์ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ให้การว่า ได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจาก นายสายชล สวมไธสง ในราคา 600,000 บาท ซึ่ง นายสายชล จะเป็นผู้จัดหารถมาขายให้กับ น.ส.ภัสสร และนำไปขายต่อเพื่อนำเงินที่ได้กำไรมาแบ่งกัน คนละ 50,000 บาท ตำรวจจึงคุมตัว น.ส.ภัสสรา และ น.ส.ปิยะธิดา มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.โคกคราม ก่อนแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร” เพื่อดำเนินคดี
ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม และ ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.สืบทราบว่า นายนภดล ที่ลักรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ย่านรามคำแหง 2 จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัว โดย นายนภดล ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ลักเอารถยนต์คันดังกล่าวมาขายจริง ซึ่งมี นายสายชล กับพวกอีก 2 คน ติดต่อมาซื้อรถยนต์จากอู่ที่ตนเป็น รปภ. โดยนายสายชล พร้อมพวกได้มาเอารถในจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนได้ขายไปให้ในราคา 200,000 บาท ก่อนหลบหนีไป และยอมรับว่า ได้ใช้เงินไปแล้ว 7,000 บาท โดยตำรวจได้ยึดที่เหลืออีก 193,000 บาท ไว้เป็นของกลางทั้งหมด จากนี้ตำรวจจะเร่งจับตัวผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป