ตำรวจหัวหมาก ตามจับหนุ่มขี่รถ จยย.กระชากโทรศัพท์มือถือสาวแบงก์ ย่านรามคำแหง จนมุมคาห้องเช่าพร้อมของกลาง รับสิ้นติดยา ปัสสาวะเป็นสีม่วง ตกงาน เพิ่งออกจากคุก ตรวจสอบประวัติโชกโชน
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 3 ม.ค. พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล รอง ผบก.น.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.ดร.ณรัฐช์พงศ์ อุดมศรี รองผกก.สส.สน.หัวหมาก และ พ.ต.ต.โกศล ยมศรีเคน สว.สส.สน.หัวหมาก ร่วมกันนำกำลังจับกุมตัว นายสุชาติ หรือ บอย คงเหมือน อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตระเวนวิ่งราวทรัพย์
พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อแอปเปิล รุ่นไอโฟน 7 พลัส สีชมพู จำนวน 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงินขาว หมายเลขทะเบียน อตฉ 892 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน หมวกกันน็อกเต็มใบ ยี่ห้อ ID สีดำ-ส้ม จำนวน 1 ใบ เสื้อกันหนาว (เสื้อฮูด) แขนยาว ลายพลาง สีน้ำเงิน-เทา จำนวน 1 ตัว และถุงมือ สีดำ-เขียว จำนวน 1 คู่ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณห้องเช่า ในซอยศรีนครินทร์ 5 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มกราคม เวลาประมาณ 11.30 น.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 คน ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โทรศัพท์มือถือ ของผู้เสียหาย แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยเหตุเกิดบริเวณบนฟุตปาท ใต้สะพานลอยคนข้าม ซอยรามคำแหง 8 ถนนรามคำแหงขาออก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบ นางสาวบี (นามสมมติ) เหยื่อเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ยืนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุในอาการตื่นตกใจ
พร้อมให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ยืนถือโทรศัพท์มือถือ ได้มีคนร้ายเป็นชาย แต่งกายสวมเสื้อแขนยาวลายพลาง สีน้ำเงิน-เทา สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน อตฉ 892 กรุงเทพมหานคร และสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สีดำ ได้กระชากโทรศัพท์มือถือจากมือของตน แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน โดยการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางหลบหนีของผู้ต้องหา กระทั่งทราบเบาะแสว่าคนร้ายรายนี้ได้หลบหนีไปที่บริเวณห้องเช่า ในซอยศรีนครินทร์ 5 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงนำกำลังไปตรวจสอบจนพบรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ตลอดจนสามารถจับกุมตัวนายสุชาติ หรือ บอย พร้อมของกลางทั้งหมด ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ในการติดตามจับกุมครั้งนี้ จึงคุมตัวสอบสวนที่ สน.หัวหมาก
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง โดยเพิ่งออกจากเรือนจำเมื่อ มีนาคม 2563 ในข้อหาลักทรัพย์ ตลอดจนติดยาเสพติด จึงหาเงินมาใช้จ่ายด้วยการตระเวนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เป็นอาชีพหลัก ซึ่งได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โทรศัพท์มือถือ ที่บริเวณบนฟุตปาท ใต้สะพานลอยคนข้าม ซอยรามคำแหง 8 ถนนรามคำแหงขาเข้า แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้จริง โดยยอมรับว่าเสพยาไอซ์ ทางตำรวจจึงนำตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาล ผลปรากฏว่า ปัสสาวะเป็นสีม่วง
ทั้งนี้ ขยายผล ผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2563 จดจำวันก่อเหตุไม่ได้ เวลาประมาณบ่ายโมง ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้านสะดวกซื้อ ซอยอินทามระ ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด จำนวน 7,000 บาท
ต่อมาก่อนช่วงปีใหม่จดจำวันก่อเหตุไม่ได้ ผู้ต้องหาได้วิ่งราวทรัพย์ ก่อเหตุบริเวณประชาสงเคราะห์ 39 ตรงข้ามปั๊ม ปตท. ไม่ได้ทรัพย์สินจากผู้เสียหาย ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง จำนวน 1 คน และก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ที่บริเวณ ซ.ชาญเมือง ซอย ประชาสงเคราะห์ 10 ได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟน จำนวน 1 เครื่อง ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง จำนวน 1 คน
ก่อนปีใหม่จดจำวันก่อเหตุไม่ได้ เวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ที่ซอยจีบดำริ หรือซอยอินทามระ 41 ได้ทรัพย์สินเป็น ไอโฟน จำนวน 1 เครื่อง ผู้เสียหายเป็นผู้หญิงจำนวน 1 คน เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณเที่ยงคืน ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ที่บริเวณถนนพระราม 9 ใกล้แยก อสมท ได้ทรัพย์สินเป็นกระเป๋าแบบสะพาย และเงินสด 140 บาท ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง จำนวน 1 คน
และหลังปีใหม่จดจำวันก่อเหตุไม่ได้ เวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม ผู้ต้องหาได้วิ่งราวทรัพย์ บริเวณซอยอำนวย ประชาสงเคราะห์ 28 ได้ทรัพย์สินเป็นกระเป๋าเงิน มีเงินจำนวน 200 บาท ผู้เสียหายเป็นหญิง จำนวน 1 คน
หนำซ้ำเมื่อทำการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบ ผู้ต้องหารายนี้ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 206/2563 ลงวันที่ 18 กันยายน 2563 ในความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง หากมีผู้เสียหายรายใดถูกคนร้ายรายนี้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าว สามารถมาดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.หัวหมาก ทันที เบื้องต้นแจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอช์) โดยผิดกฎหมาย ,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป