พระนครศรีอยุธยา - แม่ค้ากุ้งใจเด็ดสู้โจรวิ่งไล่จับคนร้ายขโมยเงิน แต่สู้แรงไม่ไหวคนร้ายหนีไปได้ กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้
วันนี้ (4 ม.ค.) เวลา 11.00 น.ขณะที่มีคนร้าย เป็นชาย อายุประมาณ 20-25 ปี ลักษณะการแต่งกายสวมเสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีเทา กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าแตะ ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ล้อทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดบริเวณหน้าร้านสถานีกุ้ง (ตลาดกุ้งราช คนสุวรรณภูมิ) เลขที่ 60/130 หมู่ 3 ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากนั้นกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของชายคนร้ายได้ลักษณะเดินวนอยู่ภายในร้านจากนั้นมานั่งบริเวณเก้าอี้ แล้วพอสบโอกาสเห็นกระเป๋าสตางค์ จึงใช้ช่วงจังหวะที่เจ้าของร้านเผลอรูดซิปกระเป๋าสตางค์ฉกเงินที่อยู่ภายในกระเป๋าออกมากำไว้ที่มือ จากนั้นจะเห็นภาพวินาทีที่เจ้าของร้านออกมาทันทีแล้วหยิบกระเป๋าสตางค์เอาไปเก็บไว้ ซึ่งเป็นจังหวะที่คนร้ายน่าจะรู้ตัวว่าเจ้าของร้านรู้แล้วว่าถูกขโมยเงินจึงพยายามลุกออกจากเก้าอี้ และจะเห็นภาพวินาทีที่เจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงวิ่งไล่ตามออกไปทันบริเวณหน้าร้านและจะเห็นได้ว่ามีการยื้อยุดดกระชากกันบริเวณหน้าร้านจนรถของคนร้ายล้ม แต่ก็ไม่สามารถยื้อแรงคนร้ายได้ ก่อนคนร้ายจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกไป
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังร้านที่เกิดเหตุ พบกับ น.ส.ศศิธร แสนสุข อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/9 หมู่ 5 ตำบลพระแก้ว อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าของร้าน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.ตนเองและแม่ครัวอยู่กัน 2 คน ซึ่งขณะเกิดเหตุมีลูกค้ามาสั่งยำหอยแครง 3 ถุง ตนเองจึงให้เข้ามานั่งรอภายในร้านแต่จังหวะนั้นชายคนร้ายได้ขอล้างมือ
ซึ่งตนเองสังเกตดูอยู่ว่าชายคนร้ายมีลักษณะมีพิรุธเนื่องจากตอนมาขอล้างมือมีการมองไปรอบๆ ลักษณะเหมือนจะดูว่ามีกล้องวงจรปิดหรือเปล่า จากนั้นเดินกลับไปนั่งที่บริเวณเก้าอี้ และนึกได้ว่าวางกระเป๋าสตางค์ไว้บนเก้าอี้ จึงรีบเดินออกมาหยิบ ตอนที่มาหยิบกระเป๋าสตางค์ตนเองก็คิดไว้ในใจว่าอาจจะถูกขโมยเงินที่อยู่ในกระเป๋า แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะกระโตกกระตาก เพราะว่าตนเองกลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธ เนื่องจากอยู่กัน 2 คน และมีแต่ผู้หญิง
ขณะเดียวกัน คนร้ายได้ขอตัวออกไปขยับรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน ตนจึงแน่ใจว่าถูกขโมยเงินแน่จึงตะโกนบอกคนร้ายว่าให้หยุด แต่คนร้ายกลับรีบเดินหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ตนจึงรีบวิ่งตามไปที่หน้าร้าน ตนจึงพยายามวิ่งตามไปที่รถเพื่อพยายามถีบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายให้ล้มและก็ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่พักหนึ่งจนตนเองล้มไปกับพื้นถนน แต่ก็สู้แรงคนร้ายไม่ไหวทำให้คนร้ายสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์หลบหนีไปได้ โดยทำหมวกกันน็อกที่อยู่บริเวณตะกร้าหน้ารถหล่นไว้ พร้อมรองเท้าแตะ 1 ข้าง และกระจกมองข้างหักหล่นไว้ที่ถนน ส่วนตนเองก็ล้มลากไปกับพื้นจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่า เมื่อมาตรวจดูกระเป๋าสตางค์พบว่าถูกคนร้ายขโมยเงินไปซึ่งเป็นแบงก์ 20 และแบงก์ 100 ไปได้ประมาณ 5,000 บาท
เหตุการณ์ดังกล่าวตนเองได้นำหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด พร้อมของกลางที่คนร้ายทำตกไว้ในที่เกิดเหตุ เข้าแจ้งความบันทึกประจำวันไว้ต่อ พ.ต.ท.จักรพันธ์ ธูปะเตมีย์ สว.สอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา แล้วเพื่อให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป