ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนศรีราชา ไล่ตามจับคนร้ายใช้ค้อนทุบตู้ร้านทองแม่วรรณี 11 ในตัวเมืองศรีราชาได้แล้ว หลังหนีไปกบดานที่จังหวัดสุโขทัย สารภาพที่ก่อเหตุเนื่องจากโมโหที่ร้านทองตีราคาแหวนทองให้ในราคาที่ต่ำกว่าตนเองตั้งใจไว้
จากกรณีคนร้ายเข้าไปจำนำแหวนทองในร้านทองแม่วรรณี 11 เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณริมถนนสุขุมวิท ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วก่อเหตุใช้ค้อนที่พกอยู่ในกระเป๋าสะพายทุบกระจกตู้ใส่ทอง แต่ร้านทองใช้ตู้กระจกนิรภัยอย่างดี ทำให้กระจกไม่แตก ก่อนตกใจขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปนั้น
ล่าสุด วันนี้ (23 ธ.ค.) พ.ต.อ.พงศ์พันษ์ พลวงษ์ศรี ผกก.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ตั้งศิริเสถียร รอง ผกก.สืบสวน สภ.ศรีราชา พร้อมด้วย พ.ต.ต.อรรคพงษ์ จตุพงษ์ สว.สืบสวน สภ.ศรีราชา ติดตามคดีนี้อย่างเร่งด่วน ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เข้าตับกุมตัว นายเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 54 ปี อาชีพทำงานบนเรือใหญ่ ได้ที่จังหวัดสุโขทัย ก่อนนำตัวกลับมาสอบสวนต่อที่ สภ.ศรีราชา โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยชุดสืบสวนสืบทราบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด จนทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายเอ๋ ก่อนประสานญาติ และได้ทราบข้อมูลว่าคนร้ายรายนี้หลบหนีไปหาลูกทึ่อยู่จังหวัดสุโขทัย จึงติดตามไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว
โดย นายเอ๋ ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ค้อนทุบกระจกร้านทองแม่วรรณี 11 จริง เนื่องจากเกิดความโมโหที่เอาแหวนทองไปจำนำแล้วตั้งใจว่าจะได้เงินสัก 7,000 บาท แต่ทางร้านตีราคามาให้แค่ 5,000 บาท จึงเกิดความเครียดใช้ค้อนที่พกติดตัวมาแล้วทุบกระจกร้านทองดังกล่าวแต่กระจกไม่แตก จึงตกใจวิ่งหนีออกจากร้านทองไป แล้วขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้ สกู๊ปปี้ ไอ สีฟ้าดำ ขี่หลบหนีไปบ้านก่อนตัดสินใจเดินทางไปหาลูกสาวที่จังหวัดสุโขทัย จนถูกจับกุมในที่สุด
ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่า “พยายามวิ่งราวทรัพย์ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” ต่อไป