xs
xsm
sm
md
lg

ปิดยอด “คุมประพฤติ” 7 วันอันตราย เมาขับสูง 4,435 คดี “สุรินทร์” แซงคว้าแชมป์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - กรมคุมประพฤติกวดขันช่วงปีใหม่ ผู้ทำผิดรวม 4,648 คดี เมาขับมากสุด 4,435 ราย จ.สุรินทร์ ซิวแชมป์ 415 คดี ยอดติด EM 58 ราย คัดกรองประวัติสุ่มเสี่ยงส่งบำบัด

วันนี้ (5 ม.ค.) นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยว่า ยอดสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติในวันสุดท้ายที่มีการควบคุมเข้มงวด คือ 4 ม.ค. 64 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564 มีจำนวนคดีพุ่งสูงถึง 2,126 คดี เป็นคดีขับรถในขณะเมาสุรา 2,036 คดี ขับเสพ 88 คดี ขับรถประมาท 2 คดี โดยสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 63 - 4 ม.ค. 64 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,648 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 4,435 คดี คิดเป็นร้อยละ 95.42 คดีขับเสพ 193 คดี คิดเป็นร้อยละ 4.15 คดีขับรถประมาท 20 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.43 ส่วนจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถในขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ 1. สุรินทร์ 415 คดี 2. บุรีรัมย์ 365 คดี และ 3. ชัยภูมิ 349 คดี

“เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่งานคุมประพฤติในวันสุดท้ายของช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 และ พ.ศ. 2564 พบว่า คดีขับรถในขณะเมาสุรา ปี พ.ศ. 2563 จำนวน 3,103 คดี และปี พ.ศ. 2564 มีจำนวน 2,036 คดี ลดลง 1,067 คดี นอกจากนี้ ศาลสั่งติดกำไล EM เพิ่มเป็นจำนวน 17 ราย รวมยอดสะสมตลอด 7 วัน ทั้งสิ้น 58 ราย โดยส่วนใหญ่มีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัยในช่วงเวลาตั้งแต่ 23.0-04.00 น. เป็นระยะเวลา 30 วัน ซึ่งจังหวัดที่ศาลสั่งติดอุปกรณ์ EM สูงสุด ได้แก่ จ.สุโขทัย มีจำนวนถึง 40 ราย”

นายวิตถวัลย์เผยอีกว่า ผู้กระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ โดยเฉพาะผู้กระทำผิดในฐานความผิดขับรถในขณะเมาสุราทุกรายจะต้องผ่านการคัดกรองแบบประเมินการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุรา กรมคุมประพฤติจะส่งเข้ารับการบำบัดรักษา ณ สถานพยาบาล สำหรับผู้กระทำผิดที่มีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดซ้ำ หรือมีประวัติการกระทำผิดซ้ำ ต้องเข้ารับการแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้นในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นระยะเวลา 3 วันต่อเนื่อง และยังคงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขคุมความประพฤติ เช่น รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ และทำงานบริการสังคม เป็นต้น

นายวิตถวัลย์เผยต่อว่า ตลอดวันสุดท้ายที่มีการควบคุมเข้มงวดในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564 กรมคุมประพฤติ โดยสำนักงานคุมประพฤติได้ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้บริการประชาชน พร้อมทั้งจัดให้มีการทำงานบริการสังคม โดยการตรวจเยี่ยม แจกน้ำดื่ม ตรวจวัดอุณหภูมิ เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสวิด-19 และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทาง ประจำจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น จำนวน 37 จุด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย อาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย และผู้ถูกคุมความประพฤติ จำนวน 393 คน










กำลังโหลดความคิดเห็น