xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.สั่งฝ่ายสืบสวนสนับสนุนงานควบคุมโรค วอนให้ความเป็นธรรม ตม.ถูกสังคมมองหละหลวมปล่อยต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ผบ.ตร.สั่งการฝ่ายสืบสวนสนับสนุนงานสอบสวนโรค ติดตามตามหากลุ่มเสี่ยง วอนให้ความเป็นธรรม ตม.ถูกสังคมมองหละหลวมปล่อยแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ ชี้ หากบกพร่องไม่ใช่หน่วยเดียวเพราะรับผิดชอบร่วมกันหมด

วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงมาตรการป้องกันแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า จะเน้นพื้นที่ 10 จังหวัดชายแดนภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ระนอง และ ราชบุรี ต้องดูเรื่องการข้ามไปข้ามมาทั้งช่องทางธรรมชาติ และด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งขณะนี้มีการแพร่ระบาดและล็อกดาวน์ จ.สมุทรสาคร ไปแล้ว หลังจากนี้ ก็ต้องเน้นไปอีก 5 จังหวัด ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ได้แก่ กทม. สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นครปฐม และ ราชบุรี

“ทุกพื้นที่ต้องอยู่ในความควบคุมของคณะกรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัดเป็นหลัก ในการตัดสินใจ เราเป็นผู้สนับสนุน ตำรวจจะช่วยได้มากเรื่องการติดตามหาคน กรณีต้องสอบสวนโรค ซึ่งตอนนี้เราใช้ฝ่ายสืบสวนทั่วประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลกัน ผ่านกองบังคับการสืบสวนของแต่ละภาค ตอนนี้ให้ตำรวจภูธรภาค 7 เป็นหลัก หาข้อมูลจากสมุทรสาคร และส่งกระจายไปช่วยติดตามหาคนที่เชื่อว่ามีความเสี่ยง ทุกอย่างต้องหารือกับบุคลากรทางการแพทย์ที่รับผิดชอบ และที่ตำรวจจะช่วยได้อีกอย่างคือ การจัดชุดออกไปสุ่มตรวจเชิงรุก ไปร่วมกับสาธารณสุข ตรวจพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ว่าได้มีการทำตามมาตรการป้องกันโรคหรือไม่ ซึ่งทางตำรวจนครบาล ก็เริ่มออกตรวจร่วมกับกรุงเทพมหานคร ไปที่หอพัก ร้านอาหาร หรือแหล่งที่มีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก” ผบ.ตร.ระบุ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนยังมอบหมายให้ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ จัดชุดออกไปตรวจเช็กกำลังพลและครอบครัว ว่า ขาดแคลนวัสดุทางการแพทย์อะไรที่จำเป็นหรือไม่ หากเราไม่ดูแลกำลังพลของเรา การทำงานก็ทำไม่ได้ ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ (20 ธันวาคม) ที่ผ่านมา รพ.ตำรวจ ก็มีการรับตำรวจจากสมุทรสาครที่มีอาการป่วย มา 1 ราย โดยยังอยู่ระหว่างการตรวจหาเชื้อ

ส่วนกรณีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ถูกสังคมมองว่าหละหลวมปล่อยให้มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาในประเทศ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า หน้าที่หลักของ ตม. คือ อยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้รับผิดชอบช่องทางธรรมชาติ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีการข้ามตามช่องทางธรรมชาติ ฝากให้ความเป็นธรรมเขาด้วย เพราะงาน ตม. ส่วนใหญ่เป็นเชิงธุรการ รวมถึงการให้บริการ และแม้ว่า ตม. มีกำลังไปสืบสวนจับกุมก็จริง แต่หากเทียบกับพื้นที่รอบประเทศไทยไม่มีทางพอ ซึ่งกำลังหลัก ต้องเป็นกำลังในพื้นที่ ที่รับผิดชอบช่องทางธรรมชาติ ทำงานร่วมกัน 4 หน่วย มีทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจพื้นที่ และตชด. ที่ต้องขึ้นยุทธการกับฝ่ายทหาร หากมีความบกพร่องต้องไม่ใช่หน่วยเดียว ต้องด้วยกันทั้งหมด เพราะรับผิดชอบด้วยกัน ซึ่งพื้นที่ชายแดนไม่ได้มีแค่เรื่องคนเดินข้ามออก ยังมีเรื่องปัญหายาเสพติด และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวถึงกรณีทุจริตเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ได้ให้จเรตำรวจแห่งชาติ ลงไปตรวจสอบทุกพื้นที่ที่มีการร้องเรียน ภายในสิ้นปีนี้จะมีการสรุปเป็นทางการ ส่วนใหญ่หลายพื้นที่สรุปแล้ว ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยหลายพื้นที่ เมื่อถึงกระบวนการนี้ผู้กล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหาจะใช้สิทธิอะไรกว่ากันไป แต่ในทางปกครองใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องเราปรับย้ายหมด บางรายถูกตั้งกรรมการวินัยร้ายแรง ย้ำว่าทุกอย่างต้องมีจุดจบของเรื่อง ต้องมีผู้ผิด ว่าไปตามพยานหลักฐาน

“ครั้งนี้ได้ย้ำเตือนไปแล้วว่าอย่าให้เกิดปัญหา เหมือนที่ผ่านมาอีก แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่กระทำผิด เหมือนกับละเลยไม่สนใจระเบียบการเบิกจ่าย ตนก็พยายามเน้นย้ำว่าผู้ที่เสียหายต้องได้รับการชดใช้ทุกราย ทั้งนี้ การสอบสวนต้องดำเนินไปตามกฎ ระเบียบ จะไปจบเรื่องกันเฉยๆ ไม่ได้ มันต้องจบลงด้วยตัวหนังสือ เพราะหากทำไม่ดี กรรมการสอบสวนต้องรับผิดชอบ” ผบ.ตร.กล่าว และว่า ตนได้กำชับอย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก และได้ให้ สำนักงานตรวจสอบภายใน กับสำนักงานจเรตำรวจ จัดทีมลงไปให้ความรู้ ยืนยันว่าหากมีเจตนาทำจริงๆ ต้องลงโทษ และผู้บังคับบัญชาต้องให้ความสนใจมากกว่านี้ โดยเฉพาะในระดับกองบัญชาการต้องลงไปดูรายละเอียดด้วย ที่ผ่านมาก็ถือว่าเอามาเป็นบทเรียน
กำลังโหลดความคิดเห็น