MGR Online - ผบ.ตร.สั่งจัดชุดพิเศษลงพื้นที่ 10 จังหวัดติดชายแดนเพื่อนบ้าน สกัดลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย ห้ามทุกนายเข้าไปยุ่งเกี่ยวผลประโยชน์ ห่วงผู้ถูกกักตัวในสมุทรสาครอาจเครียดจนก่อความวุ่นวาย กำชับเฝ้าระวัง และสร้างความเข้าใจ เตรียมทำประกันสุขภาพผู้ปฏิบัติงานสุ่มเสี่ยง ย้ำการเบิกเบี้ยเลี้ยงต้องโปร่งใส
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อมอบนโยบายและรับรายงานตัวตำรวจ รอง ผบก.- สว.ที่ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งใหม่ วาระประจำปี 2563 พร้อมด้วย พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. รอง ผบช.น.และตำรวจที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่างถึงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ว่า ได้สั่งการจัดชุดพิเศษลงพื้นที่จังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก และจังหวัดที่มีชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน 10 จังหวัด เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย โดยตำรวจทุกนายต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง หรือเรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย หากพบจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
“ผมเป็นห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยเฉพาะสภาพจิตใจของผู้ถูกกักตัว อาจเกิดความเครียดจนก่อให้เกิดความวุ่นวายได้ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ที่ต้องการรับข้อมูลและข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ ได้กำชับตำรวจในพื้นที่เข้าไปเฝ้าระวัง และชี้แจงกับประชาชน เพื่อสร้างเข้าใจในการควบคุมโรคโควิด-19 แล้ว”ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้โรงพัก หรือหน่วยงานต่างๆ ของตำรวจ จัดหาอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด-19 ให้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมทำประกันสุขภาพตำรวจผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง โดยจะนำร่องตำรวจกว่า 900 นาย ที่ปฏิบัติงานใน จ.สมุทรสาคร เน้นย้ำว่า การเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 นั้น ต้องโปร่งใส และทุกคนจะต้องได้รับภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ เสนอแนวคิดไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการควบคุมแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร
โดยจัดผู้ประสานงานไว้สื่อสารกับชาวเมียนมา ที่ถูกกักตัวบริเวณตลาดกลางกุ้งและที่พัก เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการควบคุมโรค และลดความคับข้องใจ ที่อาจนำไปสู่การก่อความวุ่นวายในอนาคต หลังพบมีบางส่วนพยายามหลบหนีออกจากสถานที่กักกัน โดยรอบพื้นที่กักตัวมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ป้องกันการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ให้สามารถปรับแก้ไขได้ตามสถานการณ์ รวมทั้งให้ตำรวจร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข (สธ.) จัดชุดสอบสวนโรค คอยตรวจสอบการเดินทางของผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง เพื่อเป็นการควบคุมโรคโควิด-19.