xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ชี้ม็อบเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล พบความผิดอื้อชุมนุมแยกลาดพร้าว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

MGR Online - บช.น.เผย ตำรวจ สน.พหลโยธิน เร่งประสานหน่วยงานและผู้เสียหาย เอาผิดมือพ่นสีในการชุมนุมวานนี้ เล็งพิจารณาข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่ง-ปราศรัยพาดพิง” เจ้าของรถเข้าแจ้งความการ์ด “ทำให้เสียทรัพย์” ชี้ เป็นปัญหาเหมือนทุกม็อบที่ผ่านมา เชื่อตำรวจทำหน้าที่รักษาความสงบดีกว่า ด้านรองโฆษก ตร.เผย ชุมนุมสถานทูตกัมพูชาวันนี้ เรียกร้องเรื่อง “วันเฉลิม” ตรวจสอบเป็นการรวมตัวหรือชุมนุม มีตำรวจคอยประสานแม้ไม่ขอกำลัง

วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีกรณีการชุมนุมบริเวณห้าแยกลาดพร้าว วานนี้ (2 ธ.ค.) และมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย ในการรวมตัวบริเวณหน้าสถานทูตกัมพูชาวันนี้

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การชุมนุมวานนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ไม่มีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลชุมนุมสาธารณะ ได้ลงมายังพื้นผิวการจราจรถนนพหลโยธิน โดยเฉพาะหน้าห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว กลุ่มการ์ดได้นำสิ่งของตั้งวาง เพื่อปิดการจราจรถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าวบางส่วน กระทั่งกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงจำนวนหนึ่ง ก่อนจะทำการปิดการจราจรห้าแยกลาดพร้าว พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ได้นำตำรวจ สน.พหลโยธิน และ บก.จร.คอยอำนวยความสะดวกการจราจร

จากนั้นเวลา 17.05 น. ผกก.สน.พหลโยธิน ในฐานะเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะ ได้มีประกาศให้ยุติการชุมนุมในเวลา 18.00 น. เมื่อถึงเวลาผู้ชุมนุมเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง กรณีดังกล่าว ผกก.สน.พหลโยธิน ได้ดำเนินการตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว โดยชุมนุมต่อจนกระทั่งถึงเวลา 01.00 น.ของวันที่ 3 ธ.ค. แกนนำจึงประกาศยุติการชุมนุม แล้วแยกย้ายเดินทางกลับ ปรากฏว่าเกิดความเสียหาย มีการเทสี ฉีดพ่นสี ลงบริเวณพื้นถนน ฟุตปาธ และกำแพง ขณะนี้ตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้เสียหาย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า กรณีเกิดเหตุกระทบกระทั่งการ์ดกับผู้สัญจร หลังจากนี้ จะมีมาตรการป้องกันอย่างไรนั้น การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และโดยสันติวิธีเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ การที่ผู้หนึ่งผู้ใดจัดการชุมนุมแล้วการ์ดไปทำร้าย ทำลายสิ่งของประชาชน ทำลายสิ่งของราชการ หรือสาธารณสมบัติ เป็นสิ่งของที่ใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ แม้กระทั่งการไปรุกราน ทุบตีรถของชาวบ้าน เป็นสิ่งไม่ควรและผิดกฎหมายเข้าข่ายความผิด “ทำให้เสียทรัพย์” ขณะนี้มีเจ้าของรถ 1 ราย ได้ประสานจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน

นอกจากนี้ ยังพบความผิดตาม “พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ, พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และทำให้เสียหาย การทำให้เสื่อมค่าทรัพย์ ซึ่งใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือสาธารณประโยชน์” กรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างพิจารณาความผิดฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน และกล่าวปราศรัยพาดพิงผู้หนึ่งผู้ใด ตำรวจจะดำเนินการทุกกรณีไม่มีเว้น

สำหรับการพูดคุยกับแกนนำเรื่องการป้องกัน ไม่ให้การ์ดกระทบกระทั่งกับประชาชนทั่วไป เบื้องต้นตำรวจมีการประสานงานเท่าที่ทำได้ เพื่อให้การชุมนุมมีความสงบเรียบร้อย และกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ถ้าเชื่อตำรวจและพยายามพัฒนา การชุมนุมสาธารณะจะเทียบเท่านานาอารยประเทศได้ การใช้การ์ดก็คงเป็นปัญหาเหมือนทุกม็อบที่ผ่านมา ตำรวจจะรักษาความสงบเรียบร้อยได้ดีกว่าการ์ด ถ้าผู้จัดการชุมนุมประสานขอกำลังตำรวจ เราก็พร้อมอำนวยความสะดวก ในการรักษาความสงบเรียบร้อย

ประเด็นมีการจำลองเหตุการณ์ในห้องพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญ แล้วมีการกล่าวถึงตุลาการ ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ก็เป็นกระบวนการที่ศาลจะต้องพิจารณาอีกครั้ง การกล่าวคำหยาบ การกล่าวคำเท็จ หรือการกระทำประการหนึ่งประการใด ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลอื่นๆ ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยืนยันการชุมนุมเป็นการใช้สิทธิตามรัญธรรมนูญ แต่การชุมนุมต้องสงบปราศจากอาวุธ และไม่ละเมิดสิทธิของผู้หนึ่งผู้ใด โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ เช่น การจราจร จนก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน ขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว หากมีความเดือดร้อนสามารถใช้สิทธิตามระบบต่างๆ ทั้งในสภาโดยผ่าน ส.ส.หรือจัดการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ หรือพื้นที่อื่นๆ ที่ไม่กระทบต่อประชาชน” โฆษก บช.น.กล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การชุมนุมวันนี้ (3 ธ.ค.) บริเวณหน้าสถานทูตกัมพูชา เบื้องต้นยังไม่มีการประสานขอกำลังตำรวจ แต่มีตำรวจในพื้นที่และตำรวจสันติบาล คอยประสานงานตามปกติ ได้รับรายงานเป็นการเรียกร้องเรื่องการหายตัวของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ตำรวจจะพิจารณาในส่วนของเท็จจริงว่า เข้าข่ายในเรื่องการชุมนุมสาธารณะ ที่จะต้องแจ้งขออนุญาตชุมนุมก่อนหรือไม่ โดยการเรียกร้องต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ตำรวจพร้อมดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อย และตามคำร้องขอของสถานทูตแต่ละแห่ง

ทั้งนี้ อยากสร้างความเข้าใจเรื่องการดำเนินคดีว่า ผู้จัดการชุมนุม หรือแกนนำคงทราบอยู่แล้วว่าตัวเองเป็นผู้ชักชวน สิ่งหนึ่งที่ควรจะทำคือ การดำเนินการตามกฎหมาย ด้วยการแจ้งการชุมนุมก่อน แล้วหลังจากนั้น จะมีการวางมาตรการร่วมกันอย่างไร เป็นสิ่งที่ตำรวจอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะการไม่กระทบสิทธิการจราจร ถ้าไม่แจ้งการชุมนุมแล้วไม่สามารถควบคุมได้ สุดท้ายก็เป็นการไล่ดำเนินคดีตามที่ปรากฏ ย้ำว่า การดำเนินการนั้นไม่มีสองมาตรฐาน ปฏิบัติตามขั้นตอนและข้อเท็จจริงอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน


กำลังโหลดความคิดเห็น