MGR Online - บช.น.เผย ตำรวจ สน.บางเขน หิ้วมือทำลายรถตู้ตำรวจสายไหม ส่งฟ้องศาลโทษปรับ 1 หมื่นบาท จำคุก 3 เดือน ความเสียหายอื่นๆ ทยอยแจ้งความ แนะเลี่ยง 3 เส้นทางชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว ย้ำ ถ้าไม่จำเป็นอย่าผ่านศูนย์ราชการ ตำรวจยังเตรียมความพร้อมแม้ม็อบย้ายที่ ด้านรองโฆษก ตร.รับมีรายงานจาก สน.ชนะสงคราม เรียกแกนนำข้อหา 112
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.แถลงความพร้อมมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีการชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง ในวันที่ 2 ธ.ค. บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ และห้าแยกลาดพร้าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากเดิมมีการนัดหมายชุมนุมบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ต่อมาได้ประกาศเปลี่ยนมาชุมนุมบริเวณห้าแยกลาดพร้าว พื้นที่ สน.พหลโยธิน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งการชุมนุมสาธารณะ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลชุมนุมสาธารณะ สำหรับการชุมนุมบริเวณกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ฯ ถนนพหลโยธิน เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยวานนี้ (1 ธ.ค.) พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้นำตัวผู้ต้องหา “ทำให้เสียทรัพย์”
ก่อเหตุทุบทำลายและปล่อยลมยางรถตู้ตำรวจ สน.สายไหม ส่งฟ้องศาลแขวงดอนเมือง ได้มีคำพิพากษาปรับ 1 หมื่นบาท จำคุก 3 เดือน โดยรอลงอาญา 2 ปี รวมถึงดำเนินคดีแกนนำผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่างๆ และการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ส่วนความเสียหายของหน่วยงานราชการอื่นๆ อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ในขณะที่รถตู้และรถยนต์ของตำรวจ ได้ตรวจสอบความเสียหายแล้วจะทยอยแจ้งความเช่นกัน
กรณีความกังวลเรื่องการนำอาวุธเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมนั้น ตำรวจไม่มีความกังวลเพราะมีความพร้อม ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย แต่จะกังวลในเรื่องการชุมนุมฝ่าฝืนกฎหมาย และลงมารุกล้ำบริเวณพื้นผิวการจราจร รวมถึงมีการปิดการจราจรทำให้ประชาชนเดือดร้อน จากผลกระทบด้านการจราจร ส่วนการจัดกำลังโดยรอบพื้นที่ จะใช้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ พฤติกรรม และจำนวนกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ และห้าแยกลาดพร้าว
“เด็กและเยาวชนจะเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ จากการข่าวคาดว่ามีส่วนหนึ่ง แต่ไม่มากเท่าไร เพราะช่วงนี้ผู้ปกครองสนใจและใส่ใจเด็กมากขึ้น ได้ดึงเด็กออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมาก สาเหตุการชุมนุมเริ่มมีการกระทบกระทั่ง ใช้อาวุธ และก่อให้เกิดอันตราย” โฆษก บช.น.กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงกรณีผู้ปกครองเข้าความที่ สน.พหลโยธิน หลังโรงเรียนไม่ให้นักเรียนแต่งชุดไพรเวตเข้าเรียน ว่า คงต้องดูว่าแจ้งความในข้อหาอะไร และเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ตนยังไม่ได้รับรายงานรายละเอียดพฤติกรรมการเกิดเหตุ จริงแล้วตามกฎกติกาองค์กรไหนก็ตาม ก็เป็นกฎกติกาขององค์กรนั้น กฎกติกาของโรงเรียนก็เป็นกฎกติกาของโรงเรียน ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามเพื่อให้นักเรียนอยู่ในระเบียบ และเป็นคนดีทุกคนควรเคารพกฎระเบียบ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวถึงกรณีพนักงานสอบสวนเรียกแกนนำคณะราษฎร เข้ารับทราบข้อหามาตรา 112 ว่า เท่าที่ทราบมีรายงานจาก สน.ชนะสงคราม เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ขณะนี้ตนไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ทุกข้อหาที่ผู้กระทำความผิดโดยเฉพาะแกนนำ ในการชุมนุมนั้นแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1. ผู้จัดการชุมนุมถ้าไม่แจ้งการชุมนุมก็มีความผิด และ 2. ถ้ามีการปราศรัยที่เข้าข่ายความผิด หรือมีการกระทำความผิดไม่ว่าจะกฎหมายอะไร ก็ต้องมีการพิจารณาตามข้อเท็จจริง
“ส่วนจะเป็นมาตราใดบ้าง ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด เพราะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ตนขอย้ำว่า การสอบสวนเป็นอิสระ ผบ.ตร.เองก็ไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงได้ เป็นเรื่องการพิจารณาตามองค์ประกอบ ของกฎหมายและข้อเท็จจริง”รองโฆษก ตร.กล่าว
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางการชุมนุม บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ได้แก่ 1. เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ขาออก (แยกกำแพงเพชร-แยกรัชโยธิน) ขาเข้า (แยกรัชโยธิน-ห้าแยกลาดพร้าว, ถนนลาดพร้าว ขาเข้า (แยกรัชดาลาดพร้าว-ห้าแยกลาดพร้าว) และถนนวิภาวดีรังสัต ขาเข้า ช่องทางคู่ขนาน (แยกหอวัง-ห้าแยกลาดพร้าว)
กรณีไปแยกรัชโยธินและลาดพร้าว สะพานอาจได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน และ 2. เส้นทางที่แนะนำใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร ได้แก่ ถนนรัชดาภิเษก, ถนนโชคชัย 4, ถนนสุทธิสาร และถนนกำแพงเพชร 2 อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะไม่มีการปิดการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ทั้งนี้ หากกลุ่มผู้ชุมนุมลงมากีดขวางการจราจร จะต้องทำการปิดการจราจรทันที หรือกลุ่มการ์ดปิดการจราจรเอง ตำรวจจะเข้ามาอำนวยความสะดวก
“สำหรับบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ถึงแม้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปลี่ยนมาชุมนุมบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ตำรวจได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ถ้าไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงถนนแจ้งวัฒนะ ขาเข้า-ขาออก หากจำเป็นควรใช้สะพานข้ามแยกหน้าศูนย์ราชการ” รอง ผบช.น.ด้านการจราจร และรองโฆษก บช.น.กล่าว