MGR Online- รมว.ยธ.ขอบคุณเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือยาย จ.พัทลุง จับหนุ่มแสบหลอกให้โอนเงินค่าติดกำไลอีเอ็มหลานชาย ย้ำการขอพักโทษไม่มีค่าใช้จ่าย วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อ
วันนี้ (26 พ.ย.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เปิดเผยกรณีหญิงอายุ 77 ปี ชาวจังหวัดพัทลุง ถูกชายอายุ 37 ปี หลอกโอนเงิน 14,670 บาท อ้างว่าสามารถช่วยเหลือหลานชายอายุ 22 ปี ที่ถูกจับคดียาเสพติดช่วยให้ได้รับการพักโทษและเป็นค่าติดกำไล EM พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและให้ทางผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อตำรวจในพื้นที่ สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง ว่าหลังจากที่ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 9 ลงไปติดตามกรณีดังกล่าว ล่าสุด ผอ.ศปพ.9 และเจ้าหน้าที่ ศปพ.9 เข้าประสานงานกับ สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง ตามสืบสวนพบว่าผู้ต้องสงสัย คือ นายบอล หรือ นายภานุวิทย์ แก้วจันทร์ ซึ่งรู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่นจริง โดยมีพฤติกรรมแอบอ้างชื่อเพื่อหาผลประโยชน์ สำหรับนายบอลได้หลอกลวงบุคคลต่างๆ ในพื้นที่ในหลายเรื่องจนมีผู้เสียหายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท และจากการติดตามตัวสืบหาตัวพบว่าขณะนี้นายบอลถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จากนี้จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นาสมศักดิ์กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ ศปพ.9 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะโหมด ที่ให้ความร่วมมือติดตามคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ให้ไปก่อความเสียหายกับประชาชนอื่นๆ ได้อีก ตนขอย้ำอีกครั้งว่าการจะขอพักโทษของผู้ต้องขังและการจะได้ติดกำไล EM นั้น เรามีระเบียบและขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวด ผู้ต้องขังต้องเป็นนักโทษชั้นดี และจะมีคณะกรรมการพิจารณาการพักโทษ ดังนั้น หากมีใครอ้างว่ารู้จักกับคนมีชื่อเสียงหรือมีตำแหน่งใหญ่สามารถช่วยให้พักโทษได้เหมือนกรณีนี้ ขอให้ประชาชนหลงเชื่ออย่างเด็ดขาด การขอพักโทษของผู้ต้องขัง หรือการติดกำไล EM นั้น ไม่มีการเรียกเก็บเงินหรือค่าใช้จ่ายใดๆ อย่างเด็ดขาด
“ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เร่งทำงานช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างเร่งด่วน และหากใครพบเจอการเรียกเก็บเงินหรือหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ขอให้แจ้งเรื่องมาได้ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด หรือศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขทั่วประเทศ กระทรวงยุติธรรมจะเร่งดำเนินการเอาผิดและนำมาลงโทษอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆ ไม่กล้าทำความผิดแบบนี้อีก” รมว.ยุติธรรมกล่าว