MGR Online -“รมว.ยธ.” มอบของขวัญปีใหม่ให้ผู้ต้องขังภูเก็ตย้ายไปเรือนจำใหม่ก่อนสิ้นปี 63 แก้ปัญหาทนนอนเบียดเสียดมานาน กำชับ ผบ.เรือนจำ วางแผนระบายคนให้รอบคอบ
วันนี้ (2 พ.ย.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) พร้อมคณะ เดินทางมาเยี่ยมตรวจการก่อสร้างเรือนจำชั่วคราวบ้านบางโจ (เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่) โดยมี นายวิทยา สุริยะวงค์ รองปลัดกระทรวง และ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำต่างๆ จังหวัดภาคใต้ ให้การต้อนรับ
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้เคยกำชับให้กรมราชทัณฑ์ เร่งแก้ปัญหาภายในเรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งเดิม ที่มีความแออัดเป็นอย่างมาก พื้นที่นอนของผู้ต้องขัง มีไม่ถึง 1 ตารางเมตรต่อคน เพราะเป็นเรือนจำเก่าที่สร้างมานานกว่า 119 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2444 จากการประชุมร่วมกัน ก็พบว่าจะสามารถทยอยย้ายผู้ต้องขังไปยังเรือนจำชั่วคราวบ้านบางโจ ได้ตั้งแต่ เดือน พ.ย.- ธ.ค. 63 เป็นต้นไป และถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลที่ให้แก่ผู้ต้องขังภูเก็ต ที่ไม่ต้องมานอนเบียดเสียดเช่นเดิม
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การย้ายผู้ต้องขังต้องวางแผนรัดกุม โดยการย้ายนั้น ต้องค่อยๆ ทยอย ไม่ใช่ขนมาทีเดียว พื้นที่เรือนจำเก่าอย่ารีบคืน เพราะเวลานี้ระบบอะไรต่างๆ ยังไม่เรียบร้อย ไม่ใช่ขนย้ายผู้ต้องขังมาแล้ว ทำให้มีปัญหาเพิ่ม เมื่อการย้ายสมบูรณ์ ก็ดูว่าจะแบ่งเบาผู้ต้องขังจากจังหวัดอื่นที่ยังแอัดได้อย่างไร สิ่งสำคัญคือ การดูแลผู้ต้องขังต้องเป็นไปตามสิทธิมนุษยชน ผู้บัญชาการเรือนจำต้องหัดบริหารความจุผู้ต้องขังอย่าให้ล้น” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เรือนจำชั่วคราวบ้านบางโจ มีพื้นที่รวม 108 ไร่ 22 ตารางวา แบ่งเป็นพื้นที่ภายนอก จำนวน 65 ไร่ 1 งาน 44 ตารางวา พื้นที่ภายใน 42 ไร่ 2 งาน 78 ตารางวา รองรับผู้ต้องขังได้ 4,892 คน เป็นชาย 4,298 คน หญิง 594 คน ขณะเดียวกัน จากการสอบถามยังพบว่า เรือนจำในภาคใต้ยังมีการแออัดอีกหลายจุด จึงได้กำชับให้ ผู้บัญชาการเรือนจำใส่ใจในเรื่องโทษ และข้อกำหนดต่างๆ หากผู้ต้องขังคนใดเข้าเกณฑ์ที่สามารถพักโทษได้ ก็ส่งให้อบรมโครงการต่างๆ และติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือ กำไลอีเอ็ม ก็จะสามารถช่วยลดการแออัดได้อีกทางหนึ่ง
“ผมพยายามทำทุกทาง ทั้งเรือนนอน 2 ชั้น ทั้งกำไลอีเอ็ม เพื่อหวังแก้ปัญหาผู้ต้องขังแออัด ผมเคยบอกไปหลายครั้งว่าการสร้างเรือนจำใหม่สิ้นเปลืองงบประมาณประเทศชาติ ดังนั้น ท่านผู้บัญชาการเรือนจำทั้งหลายต้องทำสถิติ จัดกลุ่มผู้ต้องขังว่าใครเหลือโทษเท่าใด คนใดพร้อมเข้าเกณฑ์ ก็ส่งไปอบรมโครงการ และพิจารณาติดกำไลอีเอ็ม” รมว.ยุติธรรม กล่าว
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ต้องใส่ใจอีกเรื่อง คือ การตั้งงบประมาณจ่ายค่าอาหารให้กับผู้ประกอบการ ที่ผ่านมาล่าช้ามาก ค้างชำระ 6 เดือน หากเขาไม่ส่งอาหาร ให้นักโทษสไตรก์ ผู้บัญชาการเรือนจำต้องถูกลงโทษ เพราะตนเองก็จะถูกลงโทษจากรัฐบาลเช่นเดียวกัน ดังนั้น การทำงานต้องรู้จักบริหารจัดการให้เป็นระบบ ทั้งคน ทั้งงบประมาณ อย่าปล่อยปละละเลย