MGR Online - เลขาธิการ ป.ป.ส.เข้าแจ้งความกับตำรวจ ปส. กรณียึดเคตามีนกว่า 11.5 ตัน แต่กลายเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต ยืนยันไม่มีการสลับของกลาง
วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.แจ้งความร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.ให้ดำเนินคดีผู้ร่วมขบวนการส่งออกเคตามีนไปยังประเทศไต้หวัน กว่า 300 กิโลกรัม หลังไปยึดเคตามีนที่โกดังใน จ.ฉะเชิงเทรา กว่า 11.5 ตัน มูลค่านับ 20,000 ล้านบาท แต่กลับพบว่า เป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ
นายวิชัย กล่าวว่า วันนี้นำเอกสารที่ได้รับจากประเทศไต้หวัน จับกุมเคตามีนไว้ได้ 300 กิโลกรัม มาแจ้งความเอาผิดกับผู้ร่วมขบวนการลอบส่งเคตามีนไปยังประเทศไต้หวัน ซึ่งบุคคลรายนี้อยู่ในประเทศไทย โดยเช่าโกดังเพื่อเก็บเฟอร์นิเจอร์ แต่เมื่อตรวจค้นกลับเป็นที่เก็บสารเคมี ทั้งนี้ ขอชี้แจงถึงกรณีที่ตรวจสอบเคตามีนกว่า 11.5 ตัน แล้วพบว่า มีบางส่วนเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต เบื้องต้นพบว่า สารเคมีทั้ง 2 ชนิด มีลักษณะภายนอกเหมือนกัน เบื้องต้นตอนตรวจค้นที่โกดังพบของกลาง 66 กระสอบถูกเปิดอยู่ ที่เหลือ 406 กระสอบ ยังเย็บปากถุงปิดไว้ พอตรวจสอบด้วยน้ำยาเคมีกับกระสอบที่เปิดไว้แสดงผลออกมาเป็นสีม่วง จึงเชื่อว่าเป็นเคตามีนตามที่ไต้หวันจับกุมได้จากต้นทาง จากนั้นก็ได้ร่วมกับ บช.ปส.นำของกลางไปเก็บไว้ที่ ป.ป.ส.ภาค 1 โดยเช่ารถบรรทุกขนของกลางไว้ 2 คัน และมีขบวนรถจากหลายหน่วยงานคอยคุ้มกันและแวะเติมน้ำมันที่เดียว ยืนยันไม่มีการสับเปลี่ยนของกลาง
นายวิชัย กล่าวว่า ต่อมาเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า สารเคมีดังกล่าวคือ ไตรโซเดียมฟอสเฟต ซึ่งไม่เคยพบมาก่อนว่าสารตัวนี้จะแสดงผลเป็นสีม่วง โดยในวันพรุ่งนี้เวลา 09.30 น. นักวิทยาศาสตร์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และผู้เชี่ยวชาญของ ป.ป.ส.จะตรวจพิสูจน์สารเคมีจากของกลางทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ ป.ป.ส.ภาค 1 แต่ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 วัน จึงจะทราบว่า ของกลางที่เหลือเป็นยาเสพติดหรือไม่
นายวิชัย กล่าวชี้แจงว่า สาเหตุที่การตรวจสอบล่าช้านั้น แต่แรกที่ไต้หวันจับกุมตรวจยึดของกลางได้วันที่ 23 ตุลาคม ก่อนส่งเอกสารให้ไทยลงวันที่ 29 ตุลาคม 2563 และ ป.ป.ส.รับเรื่องวันที่ 2 พฤศจิกายน จึงจะสืบสวนหาข้อมูลถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน แล้วเข้าตรวจค้นโกดัง พร้อมทำบันทึกการเข้าตรวจค้น ซึ่งผลการทดสอบสารเคมีที่พบเบื้องต้นพบเป็นเคตามีน จึงบันทึกเป็นสารคล้ายเคตามีนทุกรายการ โดยมีพยานนำตรวจค้นและตำรวจท้องที่ได้สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ พฐ.ได้เก็บหลักฐานเป็นที่เย็บปิดปากถุง พร้อมประสานประเทศต้นทางเก็บหลักฐานใบส่งสินค้าและอื่นๆ ซึ่งจะนำมามอบให้ บช.ปส.ภายหลัง
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า บช.ปส.ได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงจากทั้งพยานหลักฐาน บุคคล และเอกสาร เบื้องต้นรับคำร้องทุกข์ไว้พิจารณาดำเนินการอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีระหว่างประเทศที่เชื่อมโยงกับประเทศไทย ฉะนั้น การสอบสวน บช.ปส.ต้องเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประสานอธิบดีอัยการตั้งคณะทำงานสอบสวน เพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านของยาเสพติดต่อไป ทั้งนี้ พบว่า เคตามีนไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย แต่เป็นทางผ่านเพื่อไปสู่ประเทศที่ 3