ชายวัย 57 ปี ป่วยโรคประจำตัวหลายอย่าง ตัดสินใจใช้ปืนลูกโม่ ยิงกรอกปากตัวเสียชีวิตภายในห้องพักโครงการบ้านเอื้ออาทร ย่านคลองหลวง
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 ต.ค. 63 ร.ต.อ.นพพร แสงสว่าง ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุยิงตัวตายภายในห้องพักโครงการบ้านเอื้ออาทร กม.44 หมู่ที่ 10 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ณฐณัษฐ์ สัมภัณสิทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สามารถ เปาจีน สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นตึกที่ 44 สูง 5 ชั้น บริเวณชั้น 1 ห้องเลขที่ 16/04404 ภายในห้องนอนพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อนายประหยัด บ่อพืชน์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.3 ต.สายคำโห้ อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร ที่บริเวณปากถูกยิงด้วยอาวุธขนาด.38 จำนวน 1 แผล สภาพศพนอนหงายและบริเวณหว่างขาพบอาวุธปืนขนาด.38 แบบลูกโม่ตกอยู่จำนวน 1 กระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานตรวจสอบภายในรังเพลิงพบกระสุนปืนขนาด.38 เหลืออยู่อีก 5 นัด และปลอกกระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 1 ปลอก ภายในห้องพักไม่พบการรื้อค้นและยังมีใบเสร็จจากโรคพยาบาลต่างๆ ที่ผู้ตายไปรักษาตัวจำนวนหลายใบ
จากการสอบถาม นางสาวจิดาภา เผ่าศรีดา อายุ 49 ปี บอกว่า สามีทำงานเป็นคนดูกล้องอยู่บริษัท บขส. จำกัด และมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ซึ่งตนได้แยกกันอยู่กับสามีนานแล้ว แต่ก็ยังคุยกันอยู่ และห้องนี้สามีอยู่คนเดียว ซึ่งตนเองมีอาชีพขายอาหารตามสั่ง จนเมื่อเวลา 13.00 น.น้องสาวของสามี ได้โทรศัพท์มาหาสามี แต่สามีไม่รับสาย จึงได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่า ให้ช่วยมาดูหน่อย ซึ่งพอตนมาก็เรียกสามีอยู่ที่หน้าเพราะประตูถูกล๊อคจากด้านใน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่รปภ.มาช่วยเปิดห้อง เมื่อเปิดเข้าไปก็พบว่าสามี ได้ใช้ปืนยิงตัวเองตายแล้ว ซึ่งสาเหตุก็น่าจะมาจากโรครุมเร้าหลายอย่างจึงคิดสั้นเช่นนี้
ด้าน ร.ต.อ.นพพร แสงสว่าง ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมร่วมกับแพทย์เวรชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ พร้อมบันทึกภาพในที่เกิดเหตุเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตร ยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (เฉลิมพระเกียรติ) เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง ก่อนประสานญาติๆ มารับศพเพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป.