xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอาญายกฟ้อง “หญิงไก่” อีกสำนวน ชี้ไม่ได้ลวงสาวใช้ทำงานหนัก ไม่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 นางมณตา หรือไก่ หยกรัตนกาญ อายุ 63 ปี  (แฟ้มภาพ)
ศาลอาญายกฟ้อง “หญิงไก่” อีกสำนวน ชี้ไม่ได้หลอกลวงสาวใช้ชาวลาวทำงานหนัก ยังให้เงินใช้ส่วนตัว ดุด่าแต่ไม่เคยทำร้ายร่างกาย ไม่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์   เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (29 ก.ย.) ที่อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์ หมายเลขดำที่ คม.23/62 ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นางมณตา หรือไก่ หยกรัตนกาญ อายุ 63ปี เป็นจำเลยในความผิดฐาน ค้ามนุษย์ฯ

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 13 ก.ย. 2553 -1 ก.พ. 2555 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้ฉ้อฉล หลอกลวงใช้อำนาจครอบงำหญิง สัญชาติลาว อายุ 18 ปีเศษ โดยชักชวนให้มาทำงานเป็นแม่บ้านหรือคนรับใช้โดยสัญญาจะให้ค่าจ้างเดือนละ 6,000 บาท แต่กลับบังคับให้ทำงานตั้งแต่เวลา 05.00 น.จนถึงเวลา 02.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ทุกวันไม่มีวันหยุด โดยจำเลยไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้ตามที่ตกลงกัน หากผู้เสียหายทำงานไม่ทันใจ หรือไม่ถูกใจ จำเลยจะดุด่าว่ากล่าว นอกจากนี้จำเลยยังได้ยึดหนังสือเดินทาง (passpot) ของผู้เสียหายไว้ หากผู้เสียหายจะลาออกจะต้องนำเงินจำนวน 1 แสนบาทมาชดใช้แก่จำเลย ซึ่งเป็นค่าจ่ายเกินจริง อีกทั้งจำเลยยังกลั่นแกล้งผู้เสียหายว่า ลักเอาทรัพย์สินของจำเลยและข่มขู่จะดำเนินคดีอีกด้วย จึงขอให้ลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 4, 6, 52

โดยวันนี้ศาลได้อ่านคำพิพากษาผ่านคอนเฟอเรนซ์ จากศาลอาญาไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยประการแรกว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ทางไต่สวนข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยพา น.ส.กาบแก้วไม่มีนามสกุล ผู้เสียหายซึ่งเป็นคนสัญชาติลาว มาที่กรุงเทพมหานคร โดยมาพักอาศัยอยู่กับจำเลย และให้ผู้เสียหายทำงานบ้าน โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยบังคับใช้แรงงานการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 6 (เดิม) ต้องเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ หน่วงเหนี่ยวกักขัง กระทำผิดในการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลที่ตนดูแลโดยข่มขืนใจให้ทำงานหรือให้บริการ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของบุคคลนั้นเอง หรือของผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยทำให้บุคคลนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ โดยข้อเท็จจริงจากบันทึกคำให้การของผู้เสียหาย ประกอบกับคำเบิกความของเพื่อนร่วมงานผู้ที่อยู่ร่วมทำงานกับผู้เสียหาย รวมทั้งหมด 5 คน ร่วมกันช่วยทำงานบ้านให้กับจำเลย ในห้องพักคอนโด เชื่อว่างานดังกล่าวเป็นงานที่ไม่หนักมาก อีกทั้งเมื่อวีซ่าของผู้เสียหายจะหมด ผู้เสียหายก็สามารถเดินทางออกจากคอนโดเพื่อต่อวีซ่าที่ประเทศลาวได้ โดยจำเลยยังมอบเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อวีซ่าด้วย และ สามารถออกจากที่พักไปซื้อของ หรือไปข้างนอกได้ และจำเลยเคยพาคนที่อยู่ในบ้านเช่นเดียวกับไปเที่ยวต่างจังหวัด ย่อมแสดงให้เห็นว่าคนที่ทำงานบ้านไม่ว่าจะเป็นพยานหรือแม้แต่ผู้เสียหายย่อมมีอิสระ ไม่ได้ถูกจำเลยกักขัง แม้จะปรากฏว่าขณะจำเลยชักชวนผู้เสียหายมาอยู่กับจำเลย จำเลยกล่าวจะรับผู้เสียหายเป็นบุตรบุญธรรมและให้เงินเดือนผู้เสียหาย แต่เมื่อผู้เสียหายว่าอยู่กับจำเลยแล้ว จำเลยกลับไม่ได้รับผู้เสียหายเป็นบุตรบุญธรรมและไม่ได้ให้เงินเดือนแก่ผู้เสียหาย แต่เมื่อพิจารณาพฤติการณ์ของจำเลยได้ให้การดูแลบุคคลที่อยู่ในบ้านของจำเลย ตามสมควรเช่น ให้เงินใช้จ่ายส่วนตัว หรือพาไปเที่ยว จึงเชื่อได้ว่าจำเลยประสงค์จะรับผู้เสียหายมาอุปการะจริง และแม้ขณะผู้เสียหายอยู่กับจำเลย ผู้เสียหายต้องทำงานบ้านและจำเลยเป็นผู้เก็บหนังสือเดินทางของผู้เสียหายและพยานไว้ กรณีมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการที่จำเลยจะเก็บหนังสือเดินทางอีกหลายเล่มไว้เพื่อช่วยเก็บรักษา เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญ ถ้าสูญหายจะประสบปัญหา นอกจากนี้ หากผู้เสียหายและพยานทำงานไม่ถูกใจ จำเลยจะดุด่า แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกาย ดังนั้นไม่มีพยานหลักฐานแสดงให้เห็นแน่ชัด ว่าจำเลยได้กระทำการใดอันเป็นการข่มขืนใจให้ผู้เสียหายทำงานโดยทำให้ผู้เสียหายกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่าเป็นเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบโดยการบังคับใช้แรงงาน การกระทำของจำเลยจึงยังรับฟังไม่ได้ว่าทำผิดฐานค้ามนุษย์ตามฟ้อง

มีปัญหาต้องวินิจฉัยประการสุดท้ายว่าจำเลยต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน อันเนื่องมาจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ให้แก่ผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่าพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนเมื่อข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามที่ศาลวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ให้แก่ผู้เสียหาย พิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ศาลอาญาได้พิพากษาลงโทษจำคุกนางมณตา หรือหญิงไก่ แล้ว 4 สำนวน รวมโทษจำคุก 19 ปี ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ค้ามนุษย์ และแจ้งความเท็จ


กำลังโหลดความคิดเห็น