“สมศักดิ์” ใช้หลักนิติวิทย์นำ “เส้นผม” ตรวจสารเสพติด ป้องกันผู้เสพหน้าใหม่-จนท.ยัดยา

MGR Online - “รมว.ยธ.” เปิดโครงการสร้างการรับรู้การตรวจสารเสพติดในเส้นผม หวังเป็นเครื่องมือสกัดผู้เสพ ตั้งเป้าปี 64 ยึดทรัพย์เครือข่าย 6 พันล้าน เชื่อไม่ต้องใช้ความรุนแรงเหมือนในอดีต

วันนี้ (21 ก.ย.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เป็นประธานเปิดงานโครงการสร้างการรับรู้การตรวจสารเสพติดในเส้นผม โดยมี ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยธ. นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วย รมว.ยธ. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาตร์ และ พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมงาน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม มีนโยบายในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในประเทศให้ลดน้อยลง แต่คงไม่กล้าพูดว่ายาเสพติดจะหมดไปจากประเทศไทย ที่ผ่านมา มีหลายรัฐบาลบอกว่าจะปราบปรามให้สิ้นซาก แต่ในส่วนของตนในนามของกระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง วันนี้มาพูดกันคือ เรื่องของวิทยาศาสตร์ ที่จะให้ความยุติธรรมกับสังคมได้มากขึ้น ส่วนหนึ่งของคดีความการยัดยาเสพติด เช่น กรณี คนขับสิบล้อ ที่ถูกจับยาบ้า 1 เม็ด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตนเข้ามารับงานใหม่ๆ ท่าน ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เล่าให้ตนฟังว่าสามารถตรวจสอบคนเสพยาย้อนหลังได้ถึง 6 เดือน โดยตรวจเส้นผมยาว 30 ซม. จึงได้ให้นำคนขับสิบล้อมาตรวจก็ไม่พบสารยาบ้า เป็นเรื่องที่ทำให้สังคมมองนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้กระจ่างชัดว่าคนขับสิบล้อไม่ได้เสพยา

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ตนได้ไปเยี่ยมเด็กในสถานพินิจ ไปตรวจตามผับตามบาร์ คนที่เสพยามานั่งมาเที่ยวในผับในบาร์เวลาตรวจปัสสวะเขาก็มีวิธีเลี่ยง หรือคนที่รู้ว่าจะถูกตรวจ เขาก็หยุดเสพ แต่หากตรวจสารเสพติดจากเส้นผม จะย้อนหลังได้ถึง 6 เดือน และแม่นยำแน่นอน ในปี 2561 เด็กในสถานพินิจที่เข้ารับการอบรมแล้วได้พักกลับบ้าน เมื่อกลับเข้ามาเราตรวจพบการกลับไปแอบเสพยา 27-28 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปี 2562 ลดเหลือ 11 เปอร์เซ็นต์ และปี 2563 นี้เหลือเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ แค่ให้ความรู้ว่านิติวิทยาศาสตร์แก่เด็กๆ ว่าการตรวจเส้นผมย้อนหลังได้ถึง 6 เดือนและตรวจสารเสพติดได้ถึง 26 ชนิด สถิติก็ลดลง

“ส่วนค่าใช้จ่ายจากการตรวจเส้นผม เมื่อก่อนใช้น้ำยาไปทำปฏิกิริยา ซึ่งใช้เวลานานหลายวัน แต่ตอนนี้ใช้ระบบเอาเส้นผมมาอบแทน ซึ่งใช้เวลาเพียง 50 นาทีเท่านั้น และหากทำมากๆ จากเดิม 5,000 บาทเหลือเพียง 1,000 กว่าบาทต่อคนเท่านั้น ซึ่งหากพ่อแม่ รักลูกหลาน ไม่รู้ว่าเขาไปแอบเสพยาหรือไม่ กระบวนการตรวจเส้นผมสามารถช่วยได้ เป็นการตอบโจทย์ได้ว่าลูกหลานเราแอบไปเสพยาหรือไม่”

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนอยากให้สังคมและทั่วประเทศรู้ว่ามีกระบวนการดังกล่าวและจะสามารถตัดตอนผู้ค้ารายใหญ่ได้ หากไม่มีคนเสพ คนขายก็จะค่อยๆ หมดไป ก่อนหน้านี้ เราปราบปรามหนักอย่างเดียว ได้เม็ดยาประมาณ 590 กว่าล้านเม็ดต่อปี ถ้าปราบปรามอย่างเดียวลูกหลานคนไทยไม่สามารถที่จะเลี่ยงยาเสพติดได้เลย จากสถิติ ไอโอดีซี มีการผลิตยาเสพติดที่สามเหลี่ยมทองคำส่งออกไปทั่วโลกมูลค่าถึง 1.8 ล้านล้านบาท หากเราไม่ทำให้ประเทศปลอดยาเสพติดได้จะอันตรายมาก เมื่อ 10 ปีก่อนเขาผลิตวันหนึ่งได้ 4 แสนเม็ด แต่วันนี้โรงงานเดียวผลิตได้วันละ 7 ล้านเม็ด ถ้าไม่ทำลายเครือข่าย ไปไล่จับอย่างเดียว ก็ได้แค่ยาเสพติดที่มากขึ้นๆ ซึ่งจากนโยบายที่ตนได้มอบลงไป เน้นการป้องกันควบคู่ไปกับการปราบปราม ในปีนี้เรายึดยาได้ 300 กว่าล้านเม็ด ดังนั้นการที่โรงงานผลิตยาบ้ามีกำลังที่สูง แต่เรายึดยาบ้าได้น้อยลง อาจจะเป็นเพราะนโยบายที่เข้มงวด ทำให้เขาไปขายที่อื่นแทน

รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ การยึดทรัพย์จากยาเสพติดปีหนึ่งไม่เกิน 600 ล้านบาท ซึ่งตนประกาศว่า เราจะยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดให้ได้มากกว่าเดิม 2 เท่า แต่จากการใช้การดำเนินการทางธุรกรรมทางการเงินไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เรายึดทรัพย์ได้มากกว่า 3 เท่าแล้ว และในปี 2564 ตนตั้งเป้าว่าต้องยึดให้ได้ 10 เท่า จะประกาศเป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ตนขอเตือนคนที่ยังค้ายาอยู่ว่าให้ระวังให้ดีและเลิกเสีย โดย 14 วันที่แล้วตนได้เสนอกฎหมายประมวลคดียาเสพติดเข้าสู่รัฐสภา รวบรวมจาก 19 ฉบับเหลือฉบับเดียว กำลังแปรญัตติและให้ยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ เช่น ปัจจุบันมีทรัพย์สิน 100 ล้าน ค้ายามาแล้ว 10 ปี ประเมินเป็นมูลค่าเท่าไรเราจะยึดทรัพย์เท่านั้นแล้วเอาเงินเข้าหลวง

“ผมมั่นใจว่า ยาเสพติดจะค่อยลดน้อยลงไป จากการใช้หลายๆ ส่วนมาประกอบกัน เราจะไม่พูดกันลอยๆ เราจะไม่ใช้กำลังไปยึดยาเสพติดบนถนน ไม่มีการดวลปืนกันให้บาดเจ็บ ล้มตาย ไม่มีการฆ่าตัดตอน ไม่ให้มีคนติดคุกเยอะ ผมไม่อยากให้คนล้นคุก แต่เราจะทลายเครือข่ายยึดทรัพย์เอาเงินเข้าหลวง โครงการวันนี้เป็นการลดทั้งทางตรงและทางอ้อมสำหรับคนที่หลงอยู่ในยาเสพติด เราจะต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือที่เข้ามาช่วย มีกฎหมายมาควบคุม เราได้แก้ประกาศและกฎกระทรวงให้การตรวจสารยาเสพติดจากเส้นผมใช้เป็นทางเลือก หากมีการใช้มากๆ ราคาก็จะถูกลง ผมอยากให้ทุกคนสามารถตรวจได้ และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่สนใจ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในภาพรวมของเรา” นายสมศักดิ์ กล่าว