MGR Online - สาวถูกกระชากผมหลังลงจารถตู้อนุสาวรีย์ชัยฯ เรียกค่าเสียหายจากคู่กรณี 5 หมื่น ลั่นลูกยังเล็ก ถ้าตกบันไดเลื่อนจะบาดเจ็บมากกว่านี้ ยืนยันจะเอาเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ด้านผู้ก่อเหตุรีบขึ้นวิน จยย.หนี หลังเจรจาไกล่เกลี่ยที่ สน.พญาไท ตำรวจตั้ง 2 ข้อหา นัดส่งฟ้องศาล 6 ต.ค.
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวของเธอที่ถูกทำร้ายสาเหตุเกิดจากการวางกระเป๋าจองที่นั่งบนรถตู้ เมื่อนั่งมาจากรังสิตถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมีหญิงอีกรายเข้ามาจิกหัวพร้อมด่าว่านั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15ก.ย.)ที่ สน.พญาไท พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ น.ส.ปาริชาติ โพธิ์สานันทา อายุ 50 ปี ผู้ก่อเหตุหลัง น.ส.อัมพิกา หนองอุดม อายุ 30 ปี อาชีพข้าราชการ ผู้เสียหาย มาแจ้งความไว้ว่าขณะโดยสารรถตู้จากฟิวเจอร์พาร์ครังสิตมาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วถูก น.ส.ปาริชาติต่อว่าและกระชากผมผู้เสียหาย ตามที่ปรากฏในคลิปแชร์กันทางโซเชียลมีเดีย เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาต่อ น.ส.ปาริชาติ ว่า “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” และ “ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า” ก่อนนัดวันไปยื่นฟ้องต่อศาลแขวงดุสิต
ทั้งนี้ ภายหลังผู้ต้องหาและผู้เสียหายเจรจาไกล่เกลี่ยกันเสร็จสิ้น ฝ่ายผู้ต้องหาได้รีบวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหนีออกไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว
ต่อมา น.ส.อัมพิกา หนองอุดม ผู้เสียหายเปิดเผยว่าไม่ได้คุยกับคนก่อเหตุเลย เขาไม่มองหน้าหรือขอโทษตนกับสิ่งที่ทำไป หรือแม้แต่แสดงความสำนึกผิด ส่วนเรื่องคดีอาญายืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดโดยจะไปตรวจร่างกายที่ รพ.วิชัยยุทธเพื่อนำใบรับรองแพทย์มาประกอบการแจ้งความอีกครั้ง ทั้งนี้ตนได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นค่ารักษาพยาบาลค่าเดินทางค่าเสียเวลาค่าทำขวัญไปแล้ว 5 หมื่นบาท แต่คู่กรณีกล่าวหาว่าการแจ้งความของตนนั้นเกินกว่าเหตุ ถามว่าสิ่งที่ตนเรียกร้องนั้นเกินไปหรือไม่เพราะตนก็มีลูกเล็ก หากวันนั้นถูกกระชากตกบันไดเลื่อนเป็นอะไรขึ้นมาจะบาดเจ็บมากกว่านี้หรือไม่ ทั้งนี้ในวันที่ 6 ต.ค.นี้ตำรวจจะนัดคู่กรณีส่งฟ้องศาลแขวงดุสิต
น.ส.อัมพิกายืนยันว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้แสดงอาการยั่วยุแต่อย่างใด เพียงแต่ต่อแถวขึ้นรถตามปกติ โดยตนอยู่คิวต้นๆ คู่กรณีอยู่คนสุดท้าย เนื่องจากตนเป็นคนเวียนหัวง่ายจึงเลือกที่นั่งติดประตูแต่คู่กรณีไม่ยอมจะให้เข้าไปนั่งแถวในสุด ซึ่งตลอดเส้นทางที่นั่งรถมาก็ถูกคู่กรณีด่าทอตลอดเวลา แต่ตนก็ไม่ตอบโต้จนถึงจุดหมายแล้วลงรถ คู่กรณีก็อาศัยจังหวะที่ตนเผลอกำลังคุยโทรศัพท์เดินเข้ามากระชากผมอย่างแรง
