ด่วน! ศาลอาญาสั่งเพิกถอนประกัน “อานนท์ นำภา” ทนายความ-แกนนำประชาชนปลดแอก หลังปล่อยชั่วคราว ยังไปร่วมปราศรัยยุยงปลุกปั่นที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต และประตูท่าแพ เชียงใหม่
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนเพิกถอนประกัน นายอานนท์ นำภา ทนายความ และแกนนำม็อบปลดแอก และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย สองผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันกระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นได้ที่ไม่ใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนฯ, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ และข้อหาอื่น
จากกรณีร่วมชุมนุมปราศรัยกับกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลถอนประกันนายอานนท์เนื่องจากขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.เชียงใหม่ และ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ในลักษณะที่อาจเป็นการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้ ศาลอนุญาตฝากขังและปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2563 กำหนดวงเงินประกันคนละ 1 แสนบาท ไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกัน แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน
โดยที่ห้องพิจารณา 714 การไต่สวนเพิกถอนประกันนายอานนท์ในวันนี้ มี พ.ต.ท.หญิง จิตติมา ธงไชย พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ผู้ร้อง กับนายอานนท์ นำภา ผู้คัดค้าน เบิกความต่อศาล
พ.ต.ท.หญิง จิตติมา เบิกความว่า หลังจากนายอานนท์ได้ประกันตัวเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รับรายงานว่า วันที่ 9 ส.ค. 2563 นายอานนท์เข้าร่วมการชุมนุมปราศรัยที่ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ในกิจกรรมชุมนุมเชียงใหม่ #คณะประชาชนปลดแอก และวันที่ 10 ส.ค. 2563 นายอานนท์ปราศรัยที่ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นเหตุให้ สภ.คลองหลวง ขอศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับ นายอานนท์ถูกจับเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2563 ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี
พ.ต.ท.หญิง จิตติมา ตอบคำถามทนายจำเลยซักค้าน ระบุสาเหตุการยื่นคำร้องเนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาทำผิดเงื่อนไข ไม่มีเจตนาห้ามเคลื่อนไหว การปราศรัยท้วงติงการทำงานของรัฐบาลและรัฐสภาเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ผู้ต้องหาไม่มีการขอให้ใช้กำลังประทุษร้ายก่อความรุนแรง ตนไม่ได้ถอดเทปการปราศรัยของผู้ต้องหาด้วยตัวเองและไม่ได้ตรวจสอบว่าคำถอดเทปตรงตามที่ผู้ต้องหากล่าวหรือไม่ (กรณีการปราศรัยภายหลังวันที่ 8 ส.ค.) แต่มีข้อความพาดพิงสถาบันเบื้องสูง
ด้านนายอานนท์เบิกความว่า การร่วมชุมนุมทั้ง 2 แห่ง คำปราศรัยมีสาระทำนองเดียวกับคำถอดเทป เนื้อหาปราศรัยเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ อยากเห็นสังคมอยู่ในร่องรอยระบอบประชาธิปไตย ทั้งขณะชุมนุมและหลังชุมนุมไม่มีเหตุรุนแรงวุ่นวาย ไม่เรียกร้องให้ใช้กำลังประทุษร้ายหรือก่อความรุนแรง ไม่หลบหนี ไม่ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หรือเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน
ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้นช่วงเที่ยง นายอานนท์ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ว่านักศึกษาธรรมศาสตร์เป็นแกนหลัก เขาบอกว่าจะมีการพิมพ์หนังสือแจก 1 แสนเล่ม ให้ผู้ชุมนุมเตรียมรองเท้าผ้าใบมา และบอกว่ามีบิ๊กเซอร์ไพรส์การผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ จะเป็นการชุมนุมใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ล่าสุด เวลา 16.00 น.เศษ ศาลได้อ่านคำสั่งในส่วนของนายอานนท์ พิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนและคำคัดค้านขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวแล้ว ได้ความจากผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นพยานเบิกความไม่โต้แย้งกัน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2563 ผู้ต้องหาร่วมกิจกรรมชุมนุมเชียงใหม่#คณะประชาชนปลดแอก และกล่าวปราศรัยตามบันทึกถอดเทปคำปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม และเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2563 ผู้ต้องหาร่วมกิจกรรมชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทน และกล่าวปราศรัยตามบันทึกถอดเทปคำปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีได้รับอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาร่วมกิจกรรมชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทนและกล่าวปราศรัยตามบันทึกถอดเทปคำปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี
เห็นว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2563 ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยมีเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก เมื่อผู้ต้องหาเป็นบุคคลคนเดียวกับผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี โดยมีข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน อันมีลักษณะการกระทำใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก เป็นการผิดเงื่อนไขการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เพื่อป้องกันผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น กรณีมีเหตุสมควรจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา หมายขังผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวน
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หนึ่งในทีมทนายความของนายอานนท์ กล่าวว่า ศาลเห็นว่าทั้งสองผิดสัญญาประกันตามที่ศาลมีเงื่อนไขไว้ ตอนนี้ออกหมายขัง ตามกระบวนการคงคุมตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ศาลไม่ตัดสิทธิ์ที่จะมายื่นประกันตัวใหม่ ทั้งสองถูกจับเป็นกรณีที่ยังไม่ถูกฟ้องคดี พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ขอให้ศาลขังระหว่างสอบสวน ตามอำนาจขังไว้ได้ 48 วัน อาจจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องก็ได้ แต่การยื่นขอปล่อยชั่วคราวสามารถยื่นได้ตลอด ถ้าศาลเห็นสมควรก็จะให้ปล่อยจากที่คุยตอนนี้นายอานนท์ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ คิดว่านายอานนท์คงไม่ประกันตัว
ต่อมาเวลา 17.15 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายอานนท์ นำภา ขึ้นรถยนต์เรือนจำ โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนตะโกนทนายสู้ๆ ขณะที่นายอานนท์มีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว ก่อนที่รถยนต์จะเคลื่อนตัวโดยมีรถของ สน.พหลโยธิน นำหน้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ขณะที่นายภาณุพงศ์ หรือไมค์นั้น ศาลพิเคราะห์คำร้องแล้ว เห็นว่าพฤติการณ์หลังได้รับการปล่อยตัว นายภาณุพงศ์ ยอมรับว่าไปปราศรัยที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเมื่อ วันที่ 10 ส.ค. 2563 จริง แต่จำเนื้อหาไม่ได้ ประกอบกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้นำพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับผู้ต้องจากศาลจังหวัดธัญญบุรีในข้อเดียวกันอีกด้วย พยานหลักฐานของผู้ร้องจึงเพียงพอและเชื่อว่าผู้ต้องหาได้กระทำจนอาจจะก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง เห็นว่าผู้ต้องหากระทำผิดเงิ่อนปล่อยตัวชั่วคราวของศาลจริง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิเคราะห์ อายุและอาชีพการงานของผู้ต้องหาแล้วจึงให้โอกาสกลับตัว ศาลจึงใช้ดุลพินิจเพิ่มวงเงินประกันจาก 100,000 บาท เป็น 200,000 บาท และให้รายงานตัวทุก 15 วันนับตั้งแต่วันนี้ หากกระทำผิดเงื่อนไขปล่อยคราวอีก ศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวต่อไป แต่ปรากฏว่า นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ ได้เขียนเปิดเผยว่าจะไม่ขอประกันตัว และไม่ได้เพิ่มวงเงินประกันเป็น 200,000 บาท จึงถูกคุมตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เช่นเดียวกัน