MGR Online - “สมศักดิ์” สวมชุดเชฟ โชว์ศักยภาพเรือนจำระยอง พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังสร้างอาชีพ เล็งขยายโครงการทั่วประเทศ รวม 72 แห่ง
วันนี้ (24 ส.ค.) ณ เรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว และทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง จ.ระยอง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) พร้อมด้วย นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม และ นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบายเรือนจำท่องเที่ยว พร้อมเปิดโครงการ “เที่ยวสุขใจ ให้โอกาส ผู้ก้าวพลาดสู่สังคม” โดยมีกิจกรรมแข่งขันประกอบอาหาร “เชฟลูกกรงเหล็ก” ระหว่าง 2 เรือนจำ ซึ่ง รมว.ยธ. ได้สวมชุดเชฟ เยี่ยมชมการปรุงอาหารอย่างใกล้ชิด พร้อมพูดคุยกับผู้ต้องขังอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสอนขี่ม้า
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน ตามนโยบายเรือนจำท่องเที่ยวและเปิดโครงการ “เที่ยวสุขใจ ให้โอกาส ผู้ก้าวพลาดสู่สังคม” ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีโอกาสขับเคลื่อนและบริหารงานของกระทรวงยุติํธรรม โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ ตนเล็งเห็นว่า ภารกิจการคืนคนดีสู่สังคม เป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการสร้างโอกาสการยอมรับจากสังคมภายนอก
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การส่งเสริมทักษะต่างๆ ให้ผู้ต้องขัง ให้มีความพร้อมออกไปสู่สังคมภายนอก ตลอดจนการสร้างภาพลักษณ์ของเรือนจำ ให้เปลี่ยนไปจากเดิม ที่คนมองว่าเป็นแดนสนธยา ให้เป็นดินแดนแห่งการสร้าง และการให้โอกาส โดยเริ่มจากการกำหนดแนวทางในการพัฒนาผู้ต้องขัง การบริหารจัดการพื้นที่ สาธารณูปโภค พลังงาน และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ
“ศักยภาพของกรมราชทัณฑ์ คือ การมีทรัพยากรทั้งในด้านบุคลากรและพื้นที่ ซึ่งจะเห็นว่าเรือนจำหลายแห่งอยู่ในเส้นทางหลักการท่องเที่ยว มีภูมิประเทศ มีการจัดกิจกรรมหลากหลาย หากสามารถต่อยอดพัฒนาและเปลี่ยนเรือนจำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จะเป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสแสดงศักยภาพ ให้สังคมภายนอกรับรู้ ผมจึงมีนโยบายให้ผู้ต้องขังได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตภายหลังพ้นโทษ เช่น การจัดอบรมภาษาต่างประเทศ การจัดทำบัญชีครัวเรือนให้แก่ผู้ต้องขัง” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การเดินทางมาในวันนี้ จะเห็นได้ว่า กรมราชทัณฑ์ พร้อมที่จะขับเคลื่อนนโยบายเรือนจำท่องเที่ยว ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม โดเรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว สังกัดเรือนจำกลางระยอง และทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง จะเป็นพื้นที่นำร่อง และจะได้ขยายการดำเนินการไปยังแห่งอื่นๆ ตามแผนที่กรมราชทัณฑ์วางไว้ รวมถึงในวันนี้ มีการแข่งขันการฝึกทักษะการประกอบอาหารของผู้ต้องขังตามโครงการเชฟลูกกรงเหล็ก เพื่อพัฒนาและยึดเป็นอาชีพได้ภายหลังพ้นโทษ
นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาเรือนจำท่องเที่ยวทั่วประเทศ ได้มีแผนภายใน 3 ปี โดยปีงบประมาณหน้า เราจะขยายเพิ่มเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้ เรามีเรือนจำเพื่อการท่องเที่ยวจำนวน 5 แห่ง เช่น ตราด ระยอง ราชบุรี นครราชสีมา โดยจะทำเพิ่มเติมอีก 67 แห่ง จะรวมเป็น 72 แห่ง จากเรือนจำทั้งหมด 143 แห่ง ส่วนที่ไม่ทำทั้งหมด เพราะต้องดูศักยภาพแต่ละเรือนจำ ที่บางแห่งไม่สามารถทำได้
ส่วนการพัฒนาเรือนจำเป็นแหล่งท่องเที่ยว จะบูรณาการกับกระทรวงท่องเที่ยวอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม สนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งเรื่องการบูรณาการ เราสามารถใช้งบประมาณของเราเองได้ แต่วันข้างหน้าการร่วมมือกับกระทรวงท่องเที่ยวก็อาจเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า ผู้ต้องขังจะได้ประโยชน์หรือรายได้อย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ต้องขังปกติทำงานนอกจะได้ค่าจ้าง เฉลี่ย 1,000-3,000 บาทต่อเดือน โดยการแบ่งเงินหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ผู้ต้องขังจะได้ 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องมีกองทุน ซึ่งมีนักโทษหลายคนสามารถนำเงินส่งกลับไปให้ครอบครัวได้