MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร.แจงสั่งให้อดีตผู้การฯ เลย กับพวก 5 นาย พันทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเลย กลับเข้ารับราชการเพราะสอบวินัยไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ชี้เป็นเรื่องของกฎหมาย ยันผลวินัยไม่เปลี่ยนแปลง สั่งแยกสำนวนพิจารณาความผิดเป็นรายบุคคล ลั่นยอมไม่ได้เพราะตำรวจชั้นประทวนเสียหายเยอะ เตรียมตั้ง กก.สอบชุดวินัยทำงานช้าสอบสวนไม่เสร็จตามกรอบเวลา
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีต ผบก.ภ.จว.เลย กับพวก รวม 5 นายกลับเข้ารับราชการ หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ในฐานความผิดวินัยร้ายแรงจากกรณีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ ตำรวจภูธรจังหวัดเลย
พล.ต.ท.จารุวัฒน์เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยที่ดำเนินการสอบสวน พล.ต.ต.สุทิพย์ กับพวก ถึงเหตุผลที่มีการดำเนินการล่าช้าจนไม่สามารถสรุปผลการสอบสวนได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด จึงเป็นเหตุให้ต้องมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 5 นาย กลับเข้ามารับราชการ ทั้งนี้ ยืนยันว่า พล.ต.ต.สุทิพย์ กับพวกมีความผิดชัดเจน จึงต้องมีการแยกสำนวนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 นายเป็นรายบุคคล เพื่อไม่ให้การพิจารณาความผิดทับซ้อนกัน
“วานนี้ได้ตรวจสอบดูแล้วปรากฏว่าโดนวินัย 5 คน โดยมี 3 คนต้องมีการสอบปากคำ และสอบพยานเพิ่มเติมเพื่อให้ความชัดเจนเกิดขึ้นจึงทำให้เสียเวลา เมื่อเสียเวลาจึงทำให้การตรวจสอบทั้งหมดเสียเวลาไปด้วย แต่ภายหลังกรรมการชุดนี้ได้เสนอมาว่าตำรวจ 3 คนที่ตรวจสอบเพิ่ม ต้องตั้งกรรมการสอบวินัย 3 คนนี้ว่ามีความผิดด้วย วันนี้ผมจะสั่งแยกสำนวน อันไหนที่มีความผิดชัดเจนให้แยกสำนวน เช่น กรณีของ พล.ต.ต.สุทิพย์ มีความผิดชัดเจน ให้แยกสำนวนออกมา จากนั้นก็ดำเนินการปลดออก ไล่ออก อย่างไรก็ตาม จะต้องตั้งกรรมการสอบสวนวินัย คณะกรรมการชุดนี้ที่ทำงานล่าช้าด้วย” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุ
พล.ต.ท.จารุวัฒน์กล่าวด้วยว่า ยืนยันว่าผลการสอบวินัยจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากคำสั่งแรก เพียงแต่เทคนิคของกฎหมายเมื่อเลยกำหนดระยะเวลาก็ให้เขากลับมาทำงานที่เดิม เพราะกฎหมายเขียนไว้แบบนั้น เพื่อบีบให้เจ้าหน้าที่ทำงานเร็วขึ้น ยืนยันว่าผลยังเหมือนเดิม คดีนี้เป็นคดีที่ตำรวจชั้นประทวนได้รับความเสียหายเยอะมาก ยอมไม่ได้ อีกทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กำชับให้ทำคดีนี้ให้เกิดความเป็นธรรม เพื่อไม่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเสียขวัญกำลังใจ