ผบช.น.ย้ำจับกุม “เพนกวิน” ตามพยานหลักฐาน และนำตัวฝากขังตามขั้นตอนกฎหมาย เจ้าหน้าที่ไม่ได้ค้านประกันตัว ส่วนจะได้ประกันหรือไม่ แล้วแต่ศาลพิจารณา เผยมีผู้เกี่ยวข้องในคดีอีกหลายคน ใครจะมามอบตัวก่อนก็ยินดี ขณะที่ศาลปิดประตู กองเชียร์ได้แต่ยืนนอกรั้ว
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณศาล ในการยื่นคำร้องฝากขังนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำม็อบ ในวันนี้ว่า ผู้สนับสนุนน่าจะเข้าใจการทำหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องนำตัวมาฝากขังต่อศาลอาญา โดยพนักงานสอบสวนไม่ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว การจับกุมเป็นไปตามหมายจับ เป็นไปตามพยานหลักฐาน การเสนอขอหมายจับต่อศาลก็เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย กระทั่งศาลออกหมายจับให้ ส่วนเรื่องจะให้ประกันหรือไม่ขึ้นอยู่กับศาลเป็นผู้พิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามถึงคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาที่จะต้องจับกุมอีกหรือไม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า ยังมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน สำหรับเรื่องนี้ถ้าใครทราบ หรือติดต่อขอมอบตัวเราก็ยินดี ส่วนเรื่องการชุมนุมเชื่อว่าผู้ชุมนุมคงเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพราะนอกจากจะต้องดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุมแล้วก็จะต้องดูแลประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุมที่ สน.สำราญราษฎร์ คืนวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา จะต้องมีการปรับท่าทีของเจ้าหน้าที่หรือไม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า ไม่มีเหตุทะเลาะเบาะแว้งรุนแรงแต่อย่างใด เป็นเพียงเรื่องขอความร่วมมือประชาชนที่มาให้กำลังใจให้อยู่ในความสงบให้เรียบร้อย ส่วนอันไหนที่ตำรวจจะทำเกินเลยไป ตำรวจก็จะต้องรับผิดชอบ แต่ที่ผ่านมาทุกอย่างยังอยู่ในความเรียบร้อย
เมื่อถามถึงการรับมือการชุมนุมใหญ่วันพรุ่งนี้ 16 ส.ค. 2563 พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า ก็ขอให้อยู่ในกรอบและทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ขอให้รับฟังกันบ้าง เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้ ผบช.น.ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับพยานหลักฐานที่พบในบ้านของนายพริษฐ์ โดยระบุอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณศาลอาญาในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.2 และ สน.พหลโยธินจำนวน 400 นาย ได้กระจายกำลังดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย มีทั้งการกั้นรั้วในจุดต่างๆ บริเวณศาล มีการปิดประตูทางเข้าศาล ตรวจสอบบุคคลอย่างเข้มงวด ทำให้กลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่งที่มาให้กำลังใจนายพริษฐ์ได้แต่ยืนอยู่นอกบริเวณรั้วศาล ทำให้ไม่มีเหตุความวุ่นวายเหมือนการฝากขังนายอานนท์ แกนนำครั้งที่แล้ว