MGR Online - เจ้าของรถปอร์เช่ คดียิงถล่มหน้าบ้านย่านพุทธมณฑลสาย 2 ปมขัดแย้งธุรกิจหน้ากากอนามัย หอบหลักฐานแจ้งความตำรวจหลักสอง ถูกแอบอ้างสวมรอยครอบครองกรรมสิทธิ์รถ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่ สน.หลักสอง นายจิรวัฒน์ หรือ ทิม เลิศกษิต อายุ 33 ปี พร้อมด้วย น.ส.ชลธิชา หรือ เตย ชัยชิต อายุ 22 ปี แฟนสาว อดีตรองมิสทีนไทยแลนด์ 2013 และเป็นดารานักแสดงช่อง 3 หอบเอกสารการครอบครองรถยนต์ปอร์เช่ รุ่นบ็อกซเตอร์ 718 สีเหลือง ทะเบียนป้ายแดง ล 7195 กทม.เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.หลักสอง และ ร.ต.อ.ธีระสาร นรินทร์สรศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.หลักสอง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนกฤต หรือ เสี่ยตี๋ สถิจชวา อายุ 44 ปี คู่กรณีของนายอธิป หรือ วิน ขวัญบุญ อายุ 23 ปี ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่รถคันดังกล่าวจนได้รับความเสียหาย และมีคนเจ็บ ขณะนัดหมายพูดคุยเรื่องธุรกิจเกี่ยวกับหน้ากากอนามัย เหตุเกิดหน้าบ้านเสี่ยตี๋ บนถนนพุทธมณฑลสาย 2 แยก 11 เมื่อกลางดึกวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายจิรวัฒน์ กล่าวว่า ตนทำธุรกิจหลัก คือ อสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับการเช่าและซื้อขายคอนโดมิเนียม รวมถึงการขายอาหารเสริม วันนี้เดินทางมาดูรถของกลาง ซึ่งตนเป็นผู้ครอบครอง และให้นายอธิปยืมไปใช้ เนื่องจากนายอธิปเป็นผู้มีพระคุณ เพราะเคยช่วยตนหาตลาดทำการขายหน้ากากอนามัยมาก่อน โดยช่วงก่อนเกิดเหตุ นายอธิป ขอยืมรถตนไปใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.กระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันที่หน้าบ้านนายธนกฤต คู่กรณี โดย นายอธิป ยืนยันว่า รอยกระสุนที่ปรากฏบนกระโปรงหลังรถกันชน หลังกระจกรถทั้งหน้าและหลัง รวมเกือบ 10 นัด เกิดจากรอยกระสุนที่ฝ่ายนายธนกฤตยิงปืนใส่ตน ในฐานะผู้ครอบครองรถ จึงต้องเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนกฤต ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เพื่อนำหลักฐานไปประกอบการเคลมค่าเสียหายกับประกันภัยที่คาดว่าน่าจะเสียค่าซ่อมแซมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
นายจิรวัฒน์ กล่าวอีกว่า เรื่องคดียิงใส่รถตนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องแจ้งความ แต่ยังมีอีกเรื่องที่ตนต้องหอบเอกสารการครอบครองรถเข้ามาชี้แจงกับทางตำรวจ เนื่องจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางชุดคลี่คลายคดีติดต่อมาถามตนว่าได้สั่งการให้ใครมาเอารถออกจากโรงพักหรือไม่ เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นตัวแทนของผู้บริหารเจ้าของกิจการค้าวัสดุก่อสร้างและห้างสรรพสินค้าชื่อดังเข้ามาแอบอ้างความครอบครองกรรมสิทธิ์รถคันนี้ และพยายามเดินเรื่องขอนำรถของกลางออกจากโรงพัก ตนจึงบอกทางตำรวจว่าให้ระงับเอาไว้ และขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยนำรถไปเก็บรักษาในที่ปลอดภัย เพราะไม่ได้สั่งใครให้มาติดต่อขอเอารถออกจากโรงพักแต่อย่างใด ที่สำคัญ ตนเข้าใจดีว่าเรื่องคดียิงกันต้องเสร็จสิ้นเสียก่อนก่อนที่จะนำรถออกไปซ่อมแซมได้
สำหรับเอกสารที่ตนนำมามอบให้ตำรวจวันนี้ มีเล่มทะเบียนรถของกลาง ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่งจำกัด (มหาชน) ซึ่งตนได้ซื้อต่อมาจากทางบริษัท และเจ้าของรถซึ่งเป็นคู่สัญญาคนเดิม โดยจ่ายค่างวดค้างชำระของคู่สัญญาคนเดิมให้กับทางบริษัทไปแล้วจำนวน 1,280,000 บาท มีเอกสารการทำธุรกรรมถูกต้อง ที่สำคัญ ก่อนหน้านี้ ตนได้จ่ายค่าซื้อดาวน์ให้กับคู่สัญญาคนเดิมไปแล้ว 2,000,000 บาท รวมทั้งสิ้น 3,280,000 บาท ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. 62 แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถโอนรถมาเป็นของตนเองได้ เพราะสืบทราบในภายหลังขณะตนนำรถไปโอนที่ขนส่งว่ารถคันนี้ติดคำสั่งคุ้มครองของศาล เนื่องจากคู่สัญญาคนเดิมมีคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินจำนวนเงินถึง 106 ล้านบาท กับผู้บริหารเจ้าของกิจการค้าวัสดุก่อสร้างและห้างสรรพสินค้าชื่อดังทำให้รถไม่สามารถโอนได้
ทั้งนี้ ตนพยายามติดตามเรื่องดังกล่าวกับทางบริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) มาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับคำตอบกระทั่งรถที่ให้นายอธิป ยืมไปขับถูกเสี่ยตี๋ยิงเสียหายเป็นคดีความ ขณะนี้จึงเตรียมปรึกษาทนายความเพื่อเตรียมตั้งเรื่องฟ้องร้องตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคกับทางบริษัท และคู่สัญญาคนเดิมในฐานะร่วมกันฉ้อโกงตนร่วมกันหลอกขายรถให้ตนทั้งที่รู้ว่ารถไม่สามารถโอนได้ต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า วันนี้รับแจ้งความในส่วนของการทำให้เสียทรัพย์ของนายจิรวัฒน์เอาไว้ก่อนส่วนคดีการวิวาทกันระหว่างนายธนกฤต กับนายอธิป นั้น มีการแจ้งความดำเนินคดีกันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการสอบสวน และรอผลกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาตามฐานการกระทำความผิดเป็นเรื่องในสำนวนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ สำหรับเรื่องการครอบครองรถปอร์เช่ ยอมรับมีบุคคลที่สามมาแสดงตัวเป็นเจ้าของจริงตรวจสอบแล้วรถคันนี้เป็นรถที่มีการโต้แย้งกันทางกรรมสิทธิ์มาก่อนโดยนายจิรวัฒน์เพิ่งมาทราบว่ารถมีปัญหาเมื่อทำการจ่ายเงินและนำรถไปโอนไม่ได้เรื่องนี้ จึงยังต้องรอผลการดำเนินคดีของศาลส่วนรถคันนี้ทางโรงพักได้นำไปเก็บรักษาอย่างดีตามที่นายจิรวัฒน์ร้องขอเอาไว้แล้ว