กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถหรู 3 คัน ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงหน้าบ้านคู่อริ ภายในซอยพุทธมณฑล สาย 2 ปมขัดแย้งทางธุรกิจการซื้อขายหน้ากากอนามัย ผู้เสียหายยิงตอบโต้กลับทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย มีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 8
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 1 ส.ค. 2563 ร.ต.อ.ธีระสาร นรินสรศักดิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงมีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดภายในซอยพุทธมณฑล สาย 2 แยก 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ จิตติพัทธพงศ์ รอง ผกก.ป.สน.หลักสอง เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.หลักสอง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเปิดบริษัทซื้อขายหน้ากากอนามัย พบรถสปอร์ตหรู ปอร์เช่ สีเหลือง ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ล 7195 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าบริเวณกระจกบานหลังและฝากระโปรงหลังรถ รวม 2 รอยกระสุน นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 ปลอก และหัวกระสุนปืนลูกซองจำนวน 5 หัว ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนยึดรถปอร์เช่ นำไปไว้ที่ สน.หลักสอง เพื่อตรวจสอบหาผู้ครอบครองและทำการสอบปากคำว่ามีส่วนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 คน มีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลบางประกอก 8 ไปก่อนหน้านี้
ส่วนผู้ก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ รวม 11 คน ใช้รถยนต์หรูขับเข้ามาทั้งหมด 3 คัน คือ รถปอร์เช่ สีเหลืองคันที่เกิดเหตุ รถหรูอัลพาร์ด และ รถยนต์คัมรี่ หลังจากเกิดเหตุได้ขับรถหลบหนีออกไปทางหน้าปากซอยพุทธมณฑลสาย 2 ซอย 11 หลังจากนั้น จึงขับรถวนกลับมาที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อพยายามนำรถปอร์เช่ กลับออกไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุก่อน กลุ่มชายฉกรรจ์จึงแยกย้ายกันหลบหนีไป
ด้าน พ.ต.ท. ธนะสิทธิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้เบาะแสและข้อมูลของผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว โดยหลังจากนี้ จะรวบรวมพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิดและปากคำให้การของเจ้าของบ้าน ก่อนที่จะออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบสวน ส่วนสาเหตุเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทราบว่า ทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักกันและเกิดมีความขัดแย้งทางธุรกิจการซื้อขายหน้ากากอนามัย ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
จากการสอบสวนผู้เสียหายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ขับรถหรู ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อนัดแนะผู้เสียหายเพื่อเจรจาธุรกิจซื้อขายหน้ากากอนามัย แต่ปรากฏว่า เมื่อมาถึงหน้าบ้านผู้เสียหาย กลุ่มชายฉกรรจ์ได้ชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ก่อน จากนั้นผู้เสียหายจึงใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กลับจนเป็นเหตุให้กลุ่มชายฉกรรจ์ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ซึ่งหลังจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป